Project : Happy Birthday Kazahaya san
S.Au.Fic KHR [8059]
Romantic Comedy
PG
คำเตือน : เนื้อหาในเอนทรีนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย
หากท่านใดไม่ต้องการรับรู้หรือรับไม่ได้ กรุณาปิดหน้าต่างนี้ไป
ปักษามุกดา
ตอนที่ 2
“หมอนั่นคือ โรคุโด มุคุโร่
คู่แข่งทางการค้ารายใหญ่ที่ฉันต้องมาสังเกตการณ์ตามที่เล่าให้โกคุเดระคุงฟัง เพียงไม่ถึงปีเขาก็สามารถขยายกิจการใหญ่โตหกสิบเก้าสาขาทั่วเอเชียและอีกยี่สิบเจ็ดสาขาในยุโรป
แต่ฉันไม่ยักรู้มาก่อนแฮะว่าเขาเป็นเพื่อนกับยามาโมโตะด้วย”
สึนะโยชิอธิบายฉอดๆแล้วเพิ่มข้อสงสัยในตอนท้าย
คิ้วเรียวเล็กขมวดกันเป็นปมหันไปหาเพื่อนรักที่นั่งไขว่ห้างอยู่ข้างๆ
เบื้องหน้าของเขาเป็นเวทีย่อมๆสำหรับประมูล
แน่นอนว่าโซฟากำมะหยี่ที่พวกเขามาหย่อนก้นนั่งตรงนี้เป็นที่นั่งวีไอพีชั้นหนึ่งระบุชื่อสกุลของผู้นั่งเรียบร้อย
ริมฝีปากบางเบะยิ้ม
ยกมือสางผมของตัวเองให้เข้าทรง ความหงุดหงิดที่เจอหน้าคุณชายยามาโมโตะเมื่อกี้
เล่นเอาเสียทรงไปหลายเส้น “ช่างเถอะครับ
ผมว่ามันสู้ซาวาดะกรุ๊ปไม่ได้หรอก ตระกูลคุณซาวาดะสืบทอดกิจการมาหลายชั่วอายุคน
ตั้งแต่สมัยทวดของทวดผมเชียวนะครับ
หมอนั่นก็แค่มือใหม่หัดสร้างยังอ่อนหัดนักกับแวดวงธุรกิจ อย่ากังวลไปเลยครับ”
“อื้อ...ก็หวังว่าอย่างนั้น
แต่คงจะประมาทไม่ได้หรอก ฉันไม่อยากให้เตี่ยกับกงเครียดเรื่องคู่แข่งน่ะ”
โกคุเดระหันไปยิ้มบางๆอย่างเข้าใจหัวอกเพื่อนรักและให้กำลังใจไปในตัว
แต่แล้วรอยยิ้มพิมพ์ใจนั้นต้องหุบลงเมื่อมีแขกร่างสูงหน้าหล่อสองคนไม่ได้รับเชิญเดินดุ่มๆเข้ามาแล้วทรุดกายลงประกบพวกเขาจากทางซ้ายและทางขวา
ท่ามกลางสายตาที่ไม่ยินดีเจือหาเรื่องของคุณหนูทั้งสองคน
เก้าอี้พลาสติกไม่มีนั่งหรือไง!?
“ไม่ทราบว่าใครเป็นคนเชิญให้คุณชายยามาโมโตะนั่งตรงนี้ครับ”
น้ำเสียงเย็นชากัดฟันกระซิบเสียงเครียดถามร่างสูงที่นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
พร้อมขยับถอยห่างจากอีกฝ่ายโดยอัตโนมัติ
“จะใครซะอีกล่ะครับถ้าไม่ใช่ทีมงานจัดประมูล...โซฟายาวตัวนี้สำหรับวีไอพีสี่ที่นั่งนะครับคุณหนู
ซึ่งก็มีผม มุคุโร่ คุณหนูซาวาดะ แล้วก็คุณหนูโกคุเดระผู้สง่างาม...”
ยามาโมโตะตอบพร้อมรอยยิ้มแพรวพราย แต่สงสัยจะโผล่มาผิดคิว
ถ้าคนที่นั่งมองรอยยิ้มของมันอยู่นี่เป็นยัยคุณหนูเหม่ยฉีอะไรนั่นคงได้ร้องกรี๊ดกร๊าดถลาเข้าไปซบอก
แต่สำหรับเขาคุณหนูโกคุเดระ ฮายาโตะ ทายาทแก๊งค์มาเฟียผู้เกรียงไกรคนนี้รู้สึกอยากจะโก่งคออ้วกอยู่อย่างเดียว!
สายตาคุณหนูไฮโซผู้สูงส่งตวัดจิกมองตั้งแต่ทรงหัวตั้งๆสุดเท่ของอีกฝ่ายจนถึงรองเท้าหนังสีดำขลับมันมะเมื่อม
อ้อ...แล้วแล้วถ้าจมูกผู้ดีชินกับกลิ่นแบรนด์เนมของคุณหนูโกคุเดระดีพอ
น้ำหอมที่อาบตัวมันมาจนโชยนั่นคือ Attitude
Pour Homme by Giorgio Armani สุดยอดน้ำหอมของบุรุษที่แม้แต่เพศเดียวกันยังให้การยอมรับว่าทรงเสน่ห์
แต่สำหรับคุณหนูโกคุเดระแล้วมันแสบจมูกยิ่งกว่าอะไรดี
แถมยังกลบกลิ่นน้ำหอมเขาซะจมเลย
เว้ยยยยย!!! หมั่นไส้!!
“คุณหนูโกคุเดระ คุณชายยามาโมโตะครับ
เชิญรับป้ายประมูลด้วยครับ”
พนักงานชุดสูทชายคนหนึ่งยื่นป้ายสีเงินวาวให้เขากับยามาโมโตะถือไว้เพื่อใช้ยกประมูล
เป็นการบอกล่วงหน้าว่าอีกไม่กี่นาทีสงครามชิงของมีค่าระหว่างเหล่ามหาเศรษฐีจะเริ่มขึ้นแล้ว
อย่างไรก็ตามของชิ้นอื่นเขาไม่สน
ใครจะเอาก็เอาไป แต่สำหรับของชิ้นสุดท้ายซึ่งเป็นของไฮไลต์ของงาน
กระบี่โบราณปักษามุกดา ต้องถูกขายให้กับเขา!!
ทันใดนั้นเสียงพูดคุยเซ็งแซ่ก็เงียบลง
เมื่อมีเสียงๆหนึ่งดังจากไมโครโฟนหน้าเวทีพร้อมขยายเสียงไปตามลำโพงทั่วทั้งฮอล์เป็นตัวดึงดูดความสนใจ
“สวัสดีครับท่านแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน
ทั้งเหล่าท่านเจ้าของกิจการและนักธุรกิจชั้นนำของฮ่องกงและภูมิภาคเอเชีย
กระผมรู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้มาเป็นพิธีกรงานประมูลในค่ำคืนนี้
ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งการประมูลครับ!”
พิธีกรชายหญิงคู่หนึ่งปรากฎตัวบนเวทีเบื้องหน้า
พร้อมเสียงปรบมือเกรียวกราวจากทางด้านหลังของสี่เด็กหนุ่มวีไอพี แสงสปอร์ตไลท์สีส้มนวลตาฉายส่องจนสว่างไสว
แต่เห็นทีจะสว่างเป็นพิเศษตรงแท่นหินสีดำที่ตอนนี้ว่างเปล่าเพราะเป็นที่วางของประมูลที่เหล่าไฮโซจะใช้กำลังทรัพย์ฟาดฟันกันในคืนนี้
“เอาล่ะครับเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา
ขอทุกท่านพบกับสินค้าชิ้นแรก...”
“ปิ่นมังกรทองประดับหยกจักรพรรดิ์ครับ!!”
ว่าแล้วไฟหน้าเวทีก็กระพริบวูบวาบเป็นการเปิดตัว
หญิงสาวหน้าตาจิ้มลิ้มหุ่นสะคราญในชุดกี่เพ้าสีชมพูอ่อน
เป็นผู้เชิญสินค้าชิ้นแรกขึ้นวางบนขาตั้งบนแท่นหินสีดำ
พลันแท่นหินก็หมุนรอบตัวเองอย่างช้าๆเพื่อให้เหล่าผู้ร่วมประมูลได้ยลโฉมปิ่นเลอค่าอย่างทั่วถึง
“ปิ่นด้ามนี้มีรูปร่างเป็นมังกรสัตว์ในเทพนิยายของจีนที่แสดงถึงความสง่างาม
น่าเกรงขาม มีอำนาจ เป็นสัญลักษณ์แห่งโชคลาภและบารมี ทำจากทองคำบริสุทธิ์ 24K
ดวงเนตรสีแดงฉานของมังกรตรงนี้คือทับทิมแท้มูลค่าสูง แล้วดูตรงนี้ครับทุกท่าน
ที่ปากของมังกรทองได้คาบหยกจักรพรรดิ์ซึ่งเป็นที่รู้ดีกันว่าเป็นหยกที่หายากและล้ำค่าที่สุดในบรรดาหยกทั้งปวง
ในอดีตนั้นปิ่นด้ามนี้ว่ากันว่าเป็นเครื่องประดับพระเกษาของฮองเฮาเฮ่อเจ้อลี่
ฮองเฮาในสมัยฮ่องเต้คังซี ราคาเริ่มต้นไม่เท่าไหร่เลยครับท่านแขกผู้มีเกียรติ...”
“......................”
“เพียงแค่ สองแสนเหรียญเท่านั้น!!!”
ปิ่นโบราณราคาสองแสน!
โกคุเดระตบหน้าผากแถมด้วยนวดขมับของตนเองอีกหลายรอบ
ไม่ใช่ว่าคนอย่างคุณหนูโกคุเดระจะได้ยินราคาสินค้าแล้วเกิดอาการหน้ามืดวิงเวียนคล้ายเป็นลม
แต่ปิ่นมังกรทองโบราณสมัยฮ่องเต้คังซีนั่นน่ะใหม่แจ๋วแหววเหมือนเพิ่งพ่นสีมาใหม่ๆยังไงยังงั้น...ดูท่าว่าจะตั้งใจปอกลอกกระเป๋าเงินของเหล่าเศรษฐีที่รวยไม่พอแต่ที่สำคัญต้องโง่ด้วยอย่างไม่มีข้อสงสัย
เฮ้อ....คุณหนูคนรวยผู้ไม่เคยจับของเก๊คนนี้เห็นแล้วเอ็ดหนาระอาใจ
“คึหึหึหึ ย้อมแมวขายชัดๆเลยนะครับนี่”
แต่ในที่สุดคำพูดเสริมความคิดของเขาถูกตีแผ่เบาๆโดยโรคุโด มุคุโร่
นิ้วชี้ภายใต้ถุงมือสีขาวสะอาดไล้ริมฝีปากตัวเองเหมือนกับกำลังใช้ความคิด
ซึ่งนั่นก็เป็นที่น่าสนใจพอที่จะทำให้คนนั่งบนโซฟาอีกสามคนหันมามอง
พ่อคุณคนจุดประกายขยับยิ้มหวานแล้วเล่าต่อ
“ปิ่นด้ามนั้นน่ะ ชื่อมกราสุวรรณเหมครับ
เป็นของที่มีอยู่จริงและมีอดีตตามที่คุณพิธีกรกล่าวนั่นล่ะ
เพียงแต่ว่าของจริงน่ะอากงของผมแกประมูลไปตั้งแต่เมื่อหกสิบปีก่อนเพื่อมอบให้อาม่าเป็นของขวัญครบรอบวันแต่งงานน่ะครับ
พออาม่าล่วงลับ ก็กลายเป็นมรดกชิ้นสำคัญของตระกูล ตอนนี้ยังอยู่ดีในกล่องเก็บล็อกสามชั้นประกบอีกทีด้วยตู้เซฟนิรภัย
ไม่มีทางเอามาปล่อยประมูลแบบนี้แน่นอน
อ้อ...ราคาของมันไม่ได้เริ่มต้นที่สองแสนด้วยครับ คึหึหึหึ”
อ่า...พวกเขาสามคนควรจะทำอย่างไรดี
หัวเราะสมน้ำหน้ากองประมูลหรือลูบหลังปลอบใจเจ้าของปิ่นที่แท้จริงก่อน ซึ่งตอนนี้ทำหน้าบอกบุญไม่รับสุดๆ
แต่ใครจะไปรู้พ่อนักธุรกิจรุ่นใหม่ไฟแรงนี่จะมีปิ่นมกราสุวรรณเหมของแท้อยู่ในมือ
อ้าว...แล้วปักษามุกดา(ที่กำลังจะเป็น)ของเขาล่ะ....น่าห่วงอนาคตรางๆ
แต่สุดท้ายเรื่องจริงผ่านจอเกี่ยวกับปิ่นทองเจ้าปัญหาก็ไม่ได้เข้าหูคนอื่น
จนกระทั่งมีคุณนายหน้าขาวโบ๊ะคนหนึ่งเดินนวยนาดเฉิดฉายขึ้นไปรับของประมูลท่ามกลางเสียงปรบมืออย่างล้นพ้น
ซึ่งโกคุเดระจำได้แม่นว่าหล่อนคือคุณหญิงแม่ของยัยคุณหนูเหม่ยฉี
ดูท่าจะเอาไปให้ลูกสาวปักผมมาจับไอ้คุณชายยามาโมโตะนี่ล่ะสิ
ว่าแล้วดวงตาสีมรกตคู่งามก็เผลอเหลือบมองคุณชายที่ว่า
แต่เพราะจังหวะมันตรงกันหรือสวรรค์กลั่นแกล้งก็ไม่อาจรู้
ดวงตาสีน้ำตาลเปลือกไม้คู่นั้นก็มองเขาอยู่เหมือนกัน
“มองอะไรของแก หาเรื่อง?”
“ไม่ใช่ครับคุณหนู
แต่ผมรู้สึกห่วงคุณหนูอยู่นิดหน่อย” เมื่อเห็นคิ้วเรียวมุ่นเข้าหากัน
ยามาโมโตะจึงเบือนหน้าไปมองข้างหลังโซฟาซึ่งมีเหล่าผู้ติดตามของคุณหนูโกคุเดระห้าหกคนนั่งประคองกระเป๋าเซฟเก็บเงินประมูลเอาไว้บนตักคนละใบ
ก่อนจะหรี่ตาเม้มปากทำเหมือนกำลังประเมินอะไรบางอย่าง ดูมีภูมิความรู้มาก แต่ก็วอนหาเรื่องมากด้วย
“สแกนคร่าวๆผมก็พอรู้ว่าวันนี้คุณหนูเตรียมเงินมาแลกปักษามุกดาเท่าไหร่
ฮะฮะ แล้วแบบนี้จะชนะผมหรือครับนี่”
“อ้อออออออ! นี่แกกำลังส่งสาส์นท้ารบกับฉันแล้วใช่มั้ย
ได้! ได้เลยไอ้คุณชายปัญญาอ่อน แล้วเราจะได้เห็นดีกัน ถ้าวันนี้ฉันไม่ได้ปักษามุกดากลับคฤหาสน์
ไม่ต้องมาเรียกฉันว่าคุณหนูโกคุเดระ!!”
สิ้นคำประกาศิต ดวงตาสองคู่มองกันอย่างไม่มีใครคิดจะยอมแพ้
คนหนึ่งก็ทะเยอทะยานมั่นใจจัด อีกคนก็มีร่องรอยของความสนุกขบขันแต่ก็แฝงเร้นไปด้วยความจริงจังไม่แพ้กัน
จนกระทั่งในที่สุดเสียงหวูดของสงครามระหว่างสองตระกูลไฮโซทรงอิทธิพลล้นฟ้าก็เริ่มดังขึ้น
ทำให้ทั้งสองคนเบือนหน้ากลับไปมองยังเวทีด้วยใจลุ้นระทึก
“เอาล่ะครับทุกท่าน
ช่วงเวลาต่อไปเป็นระยะเวลาที่หลายท่านรอคอย
ป้ายประมูลหลายป้ายที่ยังไม่ถูกยกขึ้นในสินค้าชิ้นแรก
จะต้องโชว์หราในของชิ้นนี้จนผมกับคุณจิ้งผิงนับไม่ทันอย่างแน่นอน
ของชิ้นนี้นับว่าเป็นที่จับตามองของเหล่ามหาเศรษฐีจนทำให้ฮอล์ของเราคับคั่งเช่นนี้
เพราะด้วยความสวย สง่างามหากแต่ควบคู่ไปกับความแข็งแกร่ง
มีอำนาจเป็นดั่งมนตร์สะกดให้ทุกคนหลงใหล ไม่รอช้าครับทุกท่าน
ขอทุกท่านได้ยลโฉมราชินีแห่งศาสตราวุธที่มีความงามเป็นหนึ่ง....”
“กระบี่ปักษามุกดา”
สิ้นคำประกาศ บทเพลงระทึกใจก็โซโลบรรเลง
พร้อมด้วยแสงสปอร์ตไลท์ทั่วทั้งฮอล์พากันกระพริบวูบไหว
กระบี่งามสีทองอร่ามที่ทำให้คุณหนูโกคุเดระรู้สึกนึกถูกชะตาตั้งแต่แรกเห็นถูกวางบนขาตั้งอย่างทะนุถนอมพรั่งพร้อมด้วยเสียงฮือฮาจากผู้เข้าร่วมประมูลเป็นเสียงตอบรับชื่นชมความงดงามตามคำเล่าลือ
ความรู้สึกดีแปลกประหลาดแล่นวาบไปทั่วหัวใจของคุณหนูโกคุเดระอีกครั้ง
ยิ่งพิศ ยิ่งมอง ก็เหมือนกับว่าจะถูกดึงดูดเข้าไปอย่างบอกไม่ถูก
ปักษามุกดาถูกเก็บเอาไว้ในฝักเรียบร้อย
ไข่มุกแท้งามสมบูรณ์เจ็ดเม็ดส่องประกายล้อแสงไฟนวลผ่อง เหล่าหงส์
โนรีผู้สูงศักดิ์เจ็ดตัวกำลังสยายปีกบินโอบล้อมไข่มุกราวกับว่ามีชีวิต
พู่สีแดงที่ห้อยตรงด้ามถักทอเป็นตัวหงส์ในเทพนิยายเต็มตัว
กลิ่นอายแห่งมนตร์ขลังครอบคลุมรอบตัวกระบี่จนทำให้ผู้มองรู้สึกขนลุก...
ไม่รู้เหมือนกันว่าปักษามุกดาเคยมีเจ้าของมาก่อนหรือไม่....ถ้ามี
คนๆนั้นต้องเป็นคนที่ยิ่งใหญ่ น่าสรรเสริญและคู่ควรกับมันเช่นเดียวกับความล้ำเลอค่าอย่างหาประมาณไม่ได้ที่มันส่องประกายออกมา...
“ท่านแขกผู้มีเกียรติครับ
ท่านคงสัมผัสได้จากทางสายตาแล้วว่ากระบี่ปักษามุกดานี้สง่างามเพียงใด
ราคาเริ่มต้นของมันก็ควรตามเนื้อผ้าครับทุกท่าน....หนึ่งล้านเหรียญครับ!!”
“สองล้านเหรียญ!”
“สองล้านห้าแสน!!”
ไม่ทันสิ้นเสียงพิธีกรดี
ป้ายประมูลก็ถูกยกขึ้นพรึ่บพรั่บจากเสี่ยเฒ่าหลายคนทางฝั่งโน้น
และดูท่าว่ามันจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุดพักหายใจง่ายๆ
“เบอร์สิบสี่ สามล้านเหรียญแล้วครับ นั่น! เบอร์ยี่สิบเก้าให้ราคา ห้าล้านเหรียญครับท่านแขกผู้มีเกียรติ!!!”
“อ๊ะ! คุณเจี้ยนเหอคะ
ท่านเบอร์สี่สิบสองเสนอที่เจ็ดล้านเหรียญแล้วค่ะ!!”
สองพิธีกรยังทำหน้าที่กระบอกเสียงประกาศราคาปักษามุกดาขึ้นไปเรื่อยๆ
จนในที่สุดคุณหนูโกคุเดระก็เริ่มขยับขาที่ไขว่ ห้างอยู่ลง
เหมือนกับว่าอารัมภบทราคาที่เริ่มต้นนั้นมันยังค่อนข้างน่าเบื่อและไม่ควรค่ากับปักษามุกดาเอาเสียเลย
ร่างโปร่งบางลุกยืนขึ้นจากโซฟา แล้วป้ายเบอร์ห้าสิบเก้าในมือบางก็ถูกยกขึ้นตัดบท
“ยี่สิบล้านเหรียญ...”
“โอ้!!! ทุกท่านครับ
เบอร์ห้าสิบเก้า คุณหนูโกคุเดระ ฮายาโตะ ให้ราคาที่ยี่สิบล้านเหรียญคร้าบบบบบ!!!!”
ร่างบางยิ้มน้อยๆไปให้เหล่าผู้ร่วมประมูลที่ส่งเสียงฮือฮาพร้อมเสียงปรบมือรับกับราคาทิ้งนำสุดโต่งซึ่งโกคุเดระแอบสังเกตเห็นว่าเหล่าอาเฮีย
อาเสี่ยหลายคนเหงื่อชักจะตก นั่งกดโทรศัพท์มือถือ
หรือบางคนก็เริ่มสำรวจเครดิตดัวเองว่าจะพอถูไถไปได้อีกสักกี่น้ำ ดวงหน้าสวยสง่าหันไปทางคู่แข่งหมายเลขหนึ่งที่นั่งอยู่ข้างๆก่อนจะยักคิ้วให้น้อยๆแล้วนั่งลงตามเดิม
แต่ไม่ทันที่จะได้เยาะเย้ยนานนัก อีกฝ่ายก็ไหวไหล่
กระตุกยิ้มมุมปากกลับแล้วลุกขึ้นยืน
“ยี่สิบห้าล้านเหรียญครับ...”
“เบอร์แปดสิบค่ะ แขกผู้เกียรติคะ
คุณชายยามาโมโตะ ทาเคชิเสนอราคาพุ่งไปที่ยี่สิบห้าล้านเหรียญแล้วค่ะ”
ยามาโมโตะหว่านยิ้มหวานให้พิธีกรสาวเป็นอันดับแรก
แล้วค่อยแจกไปทั่วทั้งฮอล์ให้เคลิบเคลิ้มกันอย่างทั่วถึง
แต่สุดท้ายจัดหนักหวานบาดคอเป็นพิเศษให้กับคุณหนูร่างบางที่นั่งขบเคี้ยวเขี้ยวฟันอยู่
ความเร่าร้อนของคำว่า ‘แข่งขัน’ เริ่มเผยกลิ่นอาย จนสึนะโยชิต้องขยับตัวห่างจากเพื่อนรักเล็กน้อย
แล้วกระซิบถามคนนั่งข้างๆอย่างเสียไม่ได้
“ราคาเริ่มสูงขึ้นเรื่อยๆแล้วนะ...นายคิดว่าไง?
เพื่อนนายกับเพื่อนฉันโดนปักษามุกดาของเก๊หลอกเอาหรือเปล่า”
มุคุโร่ฟังคำถามห่วงเพื่อนของอีกฝ่ายก็ขยับยิ้มอย่างเอ็นดู
สีหน้าแววตาแบบนั้น ถ้าไม่เกรงใจก็อยากจะดึงเข้ามาลูบผมปลอบประโลมด้วยซ้ำไป
“ผมเองก็ยังไม่เคยเห็นปักษามุกดาของจริงหรอกครับสึนะโยชิคุง...แต่ว่าผมคิดว่าสองคนนั้นตาแหลมพอที่จะสัมผัสได้
ถ้าเป็นของปลอม พวกเขาคงไม่เสนอราคาสูงลิ่วแบบนั้นหรอกครับ”
ทายาทซาวาดะกรุ๊ปร่างเล็กได้แต่พยักหน้าหงึกหงักรับรู้
แล้วรอฟังผลการประมูลต่อไปว่าสุดท้ายแล้วมันจะออกหัวหรือก้อนกันแน่...
“ยี่สิบเจ็ดล้านเหรียญ!” แต่ยังมีไอ้เฒ่าหัวล้านพุงพลุ้ยห้อยสร้อยทองสิบเส้นคนหนึ่งยังไม่หมอบกระแต
ยังอุตส่าห์เสนอหน้ามาแจมระหว่างสงครามของคุณหนูคุณชายทั้งสอง
โกคุเดระผ่อนลมหายใจอย่างรำคาญก่อนจะยกป้ายขึ้นอีก
“สามสิบห้าล้านเหรียญ!”
ไอ้เฒ่าจอดสนิท...
“เบอร์ห้าสิบเก้า!
คุณหนูโกคุเดระอีกครั้งครับ
ให้มาที่สามสิบห้าล้านแล้วครับ...จะมีใครสู้ต่อมั้ยนี่” ริมฝีปากบางลอบเหยียดยิ้มเล็กน้อยส่งวิญญาณไอ้เฒ่าไม่เจียมไปผุดไปเกิดด้วยความสะใจ
แต่เมื่อฟังคำถามท้ายของพิธีกร หัวงามๆก็โคลงเล็กน้อย
ก่อนจะกอดอกเสมองคุณชายคนข้างๆแล้วแสร้งถามอย่างท้าทาย
“แค่สามสิบห้าล้านคงไม่สะทกสะท้านขนหน้าแข้งของคุณชายยามาโมโตะหรอก....จริงมั้ยล่ะ?”
“ก็ตามที่คุณหนูโกคุเดระแกบอกแหล่ะครับ”
ยามาโมโตะยังคงยิ้มหน้าระรื่นไม่ทุกข์ร้อน
ป้ายสีเงินวาวเบอร์แปดสิบถูกยกขึ้นอีกครั้ง “เอ้า! สักสี่สิบห้าล้านก็แล้วกันครับผม...”
‘สี่สิบห้าล้านรึ’ คุณหนูโกคุเดระทวนในใจ คิดว่าเขาคนนี้จะยอมแพ้ง่ายๆหรือไงวะ!? ขนหน้าแข้งเขาก็ติดแน่นทนนาน เอาสักห้าสิบล้านมาลูบยังไม่ร่วงสักเส้นเลยเฟ้ย!!
“ห้าสิบล้านเหรียญ!”
“เบอร์ห้าสิบเก้า คุณหนูโกคุเดระครับ”
“หกสิบล้านครับผม..”
“เบอร์แปดสิบ คุณชายยามาโมโตะค่ะ”
“นี่!...แกอย่ามารั้นฉันจะได้มั้ยวะหา!?
ปักษามุกดาต้องเป็นของฉันเฟ้ย!! หกสิบห้าล้าน!”
“ใครรั้นคุณหนูไม่ทราบครับ ผมเองก็อยากได้ปักษามุกดาไปไว้ที่คฤหาสน์เหมือนกันนา...เอาไว้ถ้าคุณหนูคิดถึง
อยากเห็นมัน ก็ค่อยมาที่คฤหาสน์ผมก็ได้นี่ครับ ผมต้อนรับคุณหนูเสมอ”
ยามาโมโตะยิ้มยียวนจนหน้าขาวๆของอีกฝ่ายเริ่มแดงก่ำด้วยความโกรธ
เขาหันไปหาเวทีแล้วยกป้ายขึ้น “....คุณพิธีกร เจ็ดสิบห้าล้าน....”
“ใครมันอยากจะไปเหยียบซ่องของแกกันฟะ!....เฮ้! แปดสิบล้าน!!”
“เบอร์ห้าสิบเก้า
คุณหนูโกคุเดระพุ่งราคาของปักษามุกดาไปที่แปดสิบล้านแล้วนะครับ
งานนี้นี่มีครั้งเดียวหนเดียวจริงๆที่ทำให้คุณหนูโกคุเดระผู้โด่งดังเป็นที่รู้จักของสังคมคนนี้ทุ่มอย่างสุดตัว....เอ้า!
คุณชายยามาโมโตะ ว่ายังไงครับ!?”
“............”
คราวนี้ยามาโมโตะกลับนิ่งเงียบ
ก่อนจะหันมามองหน้าอีกฝ่ายนิ่งๆแทน ดวงตาสีน้ำตาลเปี่ยมเสน่ห์และทรงอำนาจจ้องลึกเข้ามาในดวงตาคู่งามของอีกฝ่ายอย่างไม่บอกไม่กล่าวเหมือนจะค้นหาอะไรบางอย่างออกมาทางหน้าต่างหัวใจ
จนทำให้ผู้ถูกจ้องรู้สึกแปลกๆ ดวงหน้าชักร้อนผ่าวและชาวาบ
ความประหม่าชักจะทำให้มือไม้เริ่มเกะกะ และที่สำคัญที่สุด
หัวใจมันกำลังเต้นผิดจังหวะอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน มันช่างน่าอัศจรรย์
ตอนนี้โกคุเดระไม่ได้ยินเสียงใคร และไม่มีใครอยู่รอบกายเลย นอกจากยามาโมโตะ
ทาเคชิที่อยู่ตรงหน้าเขาเพียงผู้เดียว
อะไร....ความรู้สึกอ่อนแอที่แสนน่ากลัวนี่....
“ทำไม จ้องฉันทำไม หรือว่าจะขอยอมแพ้แล้ว?”
“ทำไมคุณหนู ถึงต้องการปักษามุกดาถึงขนาดนั้น?” คำถามเรียบเฉยเย็นชาที่ส่งมาทำให้หัวใจของโกคุเดระกระตุกวูบ เขาไม่เคยสัมผัสตัวตนที่จริงจังไม่ก้อร่อก้อติดแบบนี้ของอีกฝ่ายมาก่อนตั้งแต่รู้จักกันมา
มันทั้งนิ่ง ทั้งเย็น....จนน่ากลัว
“คุณหนูรู้จักปักษามุกดาขนาดไหนกันถึงจะมาอยากได้มันไป...ผมขอบอกเอาไว้ก่อนเลยนะว่า
ถ้าคุณหนูพยายามประมูลมันเพื่อต้องการชนะผม...ต่อให้คุณหนูชนะจริงๆ
คุณหนูก็ไม่มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะเป็นเจ้าของปักษามุกดา...”
เฮ้ย! อะไรกัน...ไม่ใช่นะ...ไม่ใช่อย่างนั้นนะ!
โกคุเดระพยายามจะเถียง
แต่เสียงกลับไม่ออกจากลำคอเลยแม้แต่น้อย ทุกคำพูดที่เหมือนหมิ่นเกียรติซึ่งเขาไม่เคยได้ยินมาก่อนก้องเวียนหลอกหลอนอยู่ในหู
สายตาที่มองมาตรึงให้เขาอยู่กับที่มันช่างสะกดทุกประสาทสัมผัสไม่ให้ไหวติงหรือขยับเขยื้อน
จนกระทั่งยามาโมโตะคลายดวงตาที่ตึงเครียดนั้นลง เป็นเพียงความอ่อนโยน
แต่ก็ไม่มีรอยยิ้มร่าเริงอย่างที่เคย และแล้วป้ายประกาศิตเบอร์แปดสิบก็ถูกยกขึ้น
“งานเลี้ยงแสงไฟใกล้จบแล้วครับ
ผีเสื้อราตรีตัวน้อย......คุณพิธีกรครับ...หนึ่งร้อยล้านครับ!”
กราวววววววววววว แปะๆๆๆ
เสียงปรบมือดังเกรียวกราวต้อนรับราคาที่เหยียบถึงหลักร้อยล้านกระชากคุณหนูโกคุเดระให้หลุดออกจากภวังค์
แล้วบิดตัวกลับไม่มองหน้าอีกฝ่ายอีก ไม่เคยมีคำพูดใดที่กระแทกจิตใจเขาขนาดนี้มาก่อน
คำว่าไม่คู่ควร ไม่มีคุณสมบัติมันกำลังแผลงฤทธิ์อย่างร้ายกาจ อยากถามว่าเพราะอะไร? ทำไม? เขา...คุณหนูโกคุเดระ
ฮายาโตะผู้ที่เพรียบพร้อมไปทุกด้านคนนี้น่ะเหรอที่ไม่คู่ควร...แล้วที่สำคัญเขายังสามารถสัมผัสบางสิ่งบางอย่างที่มีคุณค่าต่อจิตใจภายในตัวปักษามุกดาได้.....แล้วทำไมหมอนี่ถึงยังบอกว่าเขาไม่มีคุณสมบัติ
แล้วทำไมพูดเหมือนกับว่าตัวเองรู้จักกระบี่เล่มนี้ดีกว่าเขาถึงขนาดนั้น!
น่าโมโหที่สุด!!!
“อย่ามาพูดคำว่าไม่มีคุณสมบัติกับฉัน อะไรที่ฉันเล็งเห็นถึงคุณค่าในตัวมัน
และทุ่มกำลังสู้กับแกเพื่อแย่งชิงขนาดนี้ ฉันต้องมั่นใจว่ามันมีค่าพอที่ฉันจะเป็นผู้ครอบครอง
และตัวฉันเองก็สมควรและพร้อมพอที่จะดูแลมันเช่นเดียวกัน...”คำรับรองเด็ดเดี่ยวจากริมฝีปากบางของทายาทตระกูลโกคุเดระพร้อมกับสายตามุ่งมั่นทำให้ยามาโมโตะหันมองด้วยความอึ้งน้อยๆ
ก่อนจะเผยยิ้มชื่นชมออกมาจากหัวใจ มือบางคว้าป้ายประมูลที่วางอยู่
ก่อนจะค่อยๆยกมันขึ้นอย่างช้าๆด้วยความที่ว่ายังไม่ทิ้งมาด
แต่ทว่า....
“คุณหนูครับ...ขอโทษนะครับ
คือ....งบหมดแล้วครับ” เสียงผู้ติดตามคนสนิทคนหนึ่งกระซิบบอกเสียงเจื่อน
ทำให้คุณหนูโกคุเดระอ้าปากค้าง ตะลึงจัด มือที่ถือป้ายชะงักกลางอากาศเพียงครึ่งแขน
แล้วหันขวับไปถามคนดูแลเงินทั้งหมดเบาๆ...แต่ถึงจะเบามันก็พอจับเค้าได้ว่าเป็นการแผดเสียงนั่นแหล่ะ
งบหมด! งบหมดดด!!!
ไม่เคยได้ยินคำๆนี้มาก่อนในชีวิตเว้ย!!!
“หมดได้ไงวะ!
ไหนบอกว่ากงจัดหนักมาให้ไง แล้วไหงร้อยล้านมันหมดแล้ววะหา!”
“ก็มีร้อยล้านนี่ครับคุณหนู สู้ต่อไปได้ที่ไหน
ท่านใหญ่ก็จัดหนักอยู่จริงๆครับ แต่คุณหนูกับคุณชายหนักกว่า
ทุนทรัพย์รองรับไม่ไหวแล้วครับ” คุณหนูโกคุเดระใช้หัวแม่มือปั่นขมับของตัวเองอย่างบ้าคลั่ง
หวนนึกคนที่กำชับตัวเองอย่างดีว่าอย่าทำปักษามุกดาหลุดมือ แล้วดู๊!
ดู ปล่อยหลานตัวเองมาขายหน้าประชาชี แล้วตัวเองนั่งจิบชาดาร์จีลิงถ้วยโปรดอยู่กับคฤหาสน์
ซวย! ซวยจริงๆ
กงนะกง ยังไม่บรรลุหลุดพ้นออกจากความเค็มจริงๆด้วย
ร้อยล้านนี่แค่เศษหนึ่งส่วนสิบของบัญชีอันดับห้ามั้งน่ะ อ๊ากกกกกก! อารมณ์เสียเฟ้ย!
โกคุเดระหันกลับมาสู้หน้าพิธีก่อนที่อ้าปากพะงาบๆรอราคาที่จะหลุดจากปากของเขาอีกครั้ง
ดวงหน้าขาวเนียนเปลี่ยนเป็นซีดเผือด
ไอ้คนที่อยู่ข้างๆมันก็ได้แต่ยิ้มบ้ายิ้มบอล้อเลียนเขาใหญ่
ไอ้สีหน้าเครียดๆเมื่อกี้เหมือนจะอันตรธานหายไปเหมือนเล่นมายากล
คำว่าแพ้ตัวเบ้อเร่อมันมาจ่อรออยู่เหนือหัวงามๆของเขาแล้ว
แล้วมันกำลังจะหล่นใส่ในอีกไม่กี่วินาทีต่อจากนี้!
“เอ้า...ว่ายังไงล่ะครับคุณหนูคนเก่ง
ผมบอกแล้ว ว่าคุณหนูสู้ผมไม่ไหวหรอกน้า...” ไอ้หมอนี่ก็ได้ทีขี่แพะไล่ เคือง!
“โกคุเดระคุง...ฉันขอโทษนะ
ไม่ได้ตั้งใจมาประมูลอะไรเลยไม่ได้เอาเงินติดมาสักก้อนเลยอ่ะ แหะๆ”
กัลยาณมิตรอย่างซาวาดะ สึนะโยชิยามนี้ทำได้เพียงตบไหล่เพื่อนของตัวเองเบาๆ
ส่วนคุณหนูโกคุเดระผู้เข้าตาจนจะทำอะไรได้นอกจากส่งสายตาละห้อยขอบคุณอย่างสุดซึ้งกลับไป
ส่วนในใจเขาร้องไห้น้ำตาจะเป็นสายเลือดอยู่แล้ว
“คุณหนูโกคุเดระจะยกไม่ยกครับ
ผ่านมาหลายนาทีแล้วนะครับ ถ้าไม่ยกผมจะนับแล้วนะครับ หนึ่งร้อยล้านเหรียญครั้งที่หนึ่งงงงงงงง”
เฮ้ย!!
เดี๋ยววววววววววว!!!!
“หนึ่งร้อยล้านเหรียญครั้งที่สองงงงงงงงงงงงงง”
ไม่นะ!! จะมาแพ้แบบนี้ไม่ได้นะ
ฉันคือโกคุเดระ ฮายาโตะผู้เกรียงไกรและเพอร์เฟค
จะมาแพ้ไอ้คุณชายปัญญาอ่อนแบบนี้ไม่ได้ ปัดโธ่เว้ย! แล้วดูมันยิ้มสงเคราะห์ความแพ้ให้เต็มแก่นั่นสิ
น่าเป่าดับจริง!
“เอาละครับ
หนึ่งร้อยล้านเหรียญครั้งที่สาม!”
ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!
พรึ่บ!
ปังๆๆๆๆๆๆๆๆ!
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด!!!”
ไม่ทันทีค้อนประมูลจะทุบแล้วขายกระบี่งามลือชื่อให้กับคุณชายยามาโมโตะ
ไฟทั้งงานก็พร้อมใจกันดับพรึ่บจนมืดมองอะไรไม่ค่อยเห็น
พร้อมด้วยเสียงกัมปนาทคล้ายปืนแผดดังลั่น กลุ่มควันประหลาดแผ่กระจายโดยรอบฮอล์
โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนเวทีการประมูล! เป็นปฏิกิริยาพื้นฐานของมนุษย์แต่ต่างสถานะ
เหล่าไฮโซไฮซ้อผู้ดีตีนแดงผู้มือใสสะอาดได้ร้องวี้ดว้ายกระตู้วู้เข้าโผกอดสามีตัวเองกันจ้าละหวั่น
บางคนถึงกับล้มลุกคลุกคลานหาทางออกชนิดที่ว่าไม่ห่วงชุดหรูๆของตนเองกันเลยทีเดียว
เสียงหวีดร้องอื้ออึงผสมผสานกับเสียงกริ่งเตือนภัยฟังแล้วชวนปวดหัวโกลาหลไม่เหลือเค้าเดิมของงานประมูลสักนิด
แคร่ก! กริ๊ก!
ผิดกับเด็กหนุ่มวีไอพีสี่คนชักปืนขึ้นแล้วตั้งท่ายิงคุ้มกันอยู่ทั้งสี่จตุรทิศทันทีตามสัญชาตญาณของเหล่าบุคคลผู้เติบโตมาในโลกมืด
ดวงตาเฉียบคมของแต่ละคนกวาดมองบุคคลหรือเหตุการณ์ประหลาดต้องสงสัย
แม้เพียงกระแสลมวูบไหวก็ไม่อาจคลาดสายตา
ฝีมือของใคร ต้องการอะไรกัน!!?
“ยามาโมโตะคุงครับ...เห็นอะไรบ้างมั้ยครับ”
มุคุโร่ถามเพื่อนของตนเองที่อยู่ทิศตรงข้ามอย่างแผ่วเบา ในใจก็นึกห่วงคุณหนูซาวาดะที่อยู่ข้างๆ
แม้ว่าสิ่งที่อยู่ในมือเล็กที่จับอย่างมั่นคงนั้นจะเป็นปืนสั้นสีเงินวาววับรุ่นใหม่ล่าสุด
Hipaca
5.1 Dragon Silver สมศักดิ์ศรีเจ้าของคลังแสงอันดับหนึ่งแห่งภูมิภาคเอเชีย
พรึ่บ
“อะไรกัน เกิดอะไรขึ้น!? เมื่อกี้นี้เกิดอะไรขึ้น!!!”
“ฮือๆ คุณขา ฉันกลัว ฮืออๆๆ”
“ทุกท่านอยู่ในความสงบนะครับ!”
แต่ไม่ทันที่ยามาโมโตะจะตอบอะไรนั้น
ไฟทั้งฮอล์ก็ติดสว่างดังเดิม
พร้อมกับตำรวจฮ่องกงชุดดำหลายสิบนายกรูเข้ามาในงานพร้อมปืนคนละกระบอก
แล้วทยอยพาเหล่าผู้เข้าร่วมงาน พนักงานออกไปจากห้องจัดเลี้ยงทันที
บางคนกุมไหล่ที่บาดเจ็บเลือดอาบเพราะดูท่าว่าจะโดนกระสุนในความมืด เสียงบ่นโวยวายอื้ออึงร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยความอกสั่นขวัญแขวน
บางคนประหวั่นพรั่นพรึงโอบกอดคนรักหรือครอบครัวตัวเองแน่นน้ำตาไหลอาบเมคอัพเปรอะหมดสภาพ
เก้าอี้นวมบุชั้นดีล้มกระจัดกระจายระเนระนาด ควันสีเทากลิ่นไหม้ๆยังคลุ้งไม่จางหาย
แต่พวกเขาทั้งสี่คนก็พอที่จะลดปืนลงจากระดับสายตาได้เมื่อมีตำรวจนายหนึ่งวิ่งเข้ามาหา
“คุณหนู คุณชายครับ
กรุณาออกจากห้องจัดเลี้ยงก่อนนะครับ มีบางอย่างที่ทางตำรวจต้องตรวจสอบเป็นพิเศษ”
“ตรวจสอบเป็นพิเศษ?” คุณหนูโกคุเดระขมวดคิ้วทวน “หมายความว่าไง!?”
“เอ่อ...คือว่า คือ...ปักษามุกดาสินค้าประมูลหายไปครับคุณหนู”
“หา!!!!?? หายไปเรอะ!”
ทั้งสี่คนเบิกตาโต ร้องออกมาพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย แล้วตวัดดวงตามองไปยังเวทีแทบจะทันที
ปรากฏว่ากระบี่ปักษามุกดาที่คุณหนูโกคุเดระและคุณชายยามาโมโตะสู้ประมูลกันอยู่นานสองนานได้หายออกไปจากแท่นวางสีดำนั่นจริงๆ
หัวใจดวงน้อยๆของผู้เห็นความว่างเปล่าบนแท่นเหมือนถูกแล่และสับจนแหลกละเอียด! แน่นอนกระบี่นั่นยังมีราคาเคลือบเอาไว้ด้วยว่าหนึ่งร้อยล้านเหรียญ
มันก็เป็นเงินก้อนโตพอที่ระบบรักษาความปลอดภัยและทีมงานจัดประมูลของโรงแรมนี้กลืนไม่ลงไปตลอดทั้งชาติ!
หายไปได้ยังไง!?
มันผู้ใดกล้ามากระตุกหนวดเสือเล่น! ทำแบบนี้ไม่อยากตายดีใช่มั้ย!!
คุณหนูโกคุเดระขบฟันกรอด
รู้สึกเป็นเดือดเป็นยิ่งกว่าคนที่จะเป็นเจ้าของที่แท้จริงซะอีก
อยากจะกระชากไส้คนทำมันออกมาแล้วอบแห้งให้ปลาที่บ้านกินใจจะขาด นั่นปักษามุกดานะ!
ปักษามุกดา(ของฉัน)เลยนะเฟ้ย!!?
แต่เมื่อเจอสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกแบบนี้
เด็กหนุ่มผู้ทรงอิทธิพลทั้งสี่คนจำต้องทำตามคำขอของตำรวจคือเดินออกมาแล้วกลับไปสงบสติอารมณ์ที่บ้านตัวเองก่อน
รถคันหรูสี่คันจอดเป็นแถวเป็นแนวรอรับเจ้าของอย่างรู้หน้าที่
สึนะโยชิลูบหลังบางของเพื่อนรักตัวเองที่ทำท่าจะหมดอาลัยตายอยากแต่ก็ยังอุตส่าห์เดินมาส่งที่รถ
“ขอบใจนะ โกคุเดระคุง
อย่าคิดมากเลย...เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันไปหาที่บ้านก็แล้วกันนะ...อ้อ
แล้วก็ขอบคุณครับคุณมุคุโร่ ไม่น่าลำบากเดินมาส่งด้วยเลยนะครับ”
ริมฝีปากเล็กยิ้มแป้นให้พ่อหนุ่มคนเนียนซึ่งไม่รู้ไปติดมาจากใครเดินตามหลังตัวเองต้อยๆมายืนอยู่หน้าประตูรถเขาเรียบร้อยแล้ว
ก็ความจริงพาหนะคันงามของพ่อคุณจอดอยู่ไกลโยชน์
“คึหึหึหึ งั้นผมไปก่อนนะครับ...คืนนี้หลับฝันดี
ผีไม่อำ?
นะครับ”
“ไปนะ โกคุเดระคุง แล้วเจอกัน”
“ครับ
เดินทางปลอดภัย...แล้วเจอกันครับคุณซาวาดะ” โกคุเดระโบกมือหย็อยๆแล้วเดินหันหลังกลับไปก้าวขาขึ้นรถส่วนตัวที่คนขับรถขับมารับ
แต่ยังไม่ทันที่ล้อจะหมุน ก็มีคนๆหนึ่งมาเคาะกระจกเฟอร์รารี่ลูกรักของเขาซะก่อน ไม่ใช่ใครที่ไหน
คุณชายยามาโมโตะเจ้าเก่าเจ้าเดิม
“มีอะไร”
“ผมก็แค่อยากมาส่งนี่นา
กลับบ้านดีๆนะครับคุณหนูโกคุเดระ” ยามาโมโตะยิ้มหวาน แต่พลันก็ชะงักแล้วหุบยิ้ม
กลอกดวงตาขึ้นฟ้าทำท่าแสร้งนึกอะไรบางอย่าง ก่อนที่จะดีดนิ้วเปาะ “ไม่ใช่สิ...คุณหนูบอกว่าถ้าไม่ได้ปักษามุกดากลับบ้าน
ก็ไม่ต้องเรียกว่าคุณหนูโกคุเดระนี่นา...”
อ้าว เฮ้ย!?
“งั้นเอาใหม่....กลับบ้านดีๆนะครับคุณหนูฮายาโตะ!”
เฮ้ยยยยยย!!?
“อืม...ยังสั้นไปแฮะ...ต้องเป็น...คุณหนูฮายาโตะของผม
สิเนอะ!”
“ย้ากกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!
ฉันจะฆ่าแก๊ ไอ้บ้า! ไอ้คุณชายยามาโมโตะปัญญาอ่อน
รูปไม่หล่อ พ่อไม่รวย เหล่าอาหมวยไม่เอา!!
แล้วถ้าหาปักษามุกดาเจอเมื่อไหร่ มันต้องเป็นของฉัน คอยดู!!!”
.
.
.
TBC...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น