หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2557

S.Au.Fic KHR [8059] ปักษามุกดา:01



Project : Happy Birthday Kazahaya san
S.Au.Fic KHR [8059]
Romantic Comedy
PG
คำเตือน : เนื้อหาในเอนทรีนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากท่านใดไม่ต้องการรับรู้หรือรับไม่ได้ กรุณาปิดหน้าต่างนี้ไปค่ะ 




ปักษามุกดา


ตอนที่ 1


ฮ่องกง ค.ศ. 2011


            ฮ่องกง เขตการปกครองพิเศษที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของจีนแผ่นดินใหญ่ซึ่งนับว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งอารยธรรมความเจริญก้าวหน้าทั่วทุกด้านแห่งเอเชียทวีป ดินแดนที่เป็นเกาะท่ามกลางมหาสมุทรแปซิฟิกอันกว้างใหญ่ไพศาลส่งเสริมให้ฮ่องกงในปัจจุบันรุ่งเรืองทั้งด้านการค้า คมนาคม การท่องเที่ยวและอุตสาหกรรม ยามกลางวัน เมื่อแสงอาทิตย์สาดส่องจับต้องกับห้วงมหรรณพแลเห็นประกายบนผิวน้ำราวเพชรกะรัตงามแวววาวดาษดา แต่หากในยามราตรี ดั่งแสงแห่งความศิวิไลซ์ที่ถูกเก็บซ่อนเอาไว้เริ่มกระพริบเจิดจ้า ดวงไฟนีออนนับพันล้านหมื่นล้านดวงตามประสากรุงใหญ่จะเป็นผู้ย้อมสีดำมืดมิดแห่งท้องฟ้ายามรัตติกาลให้สว่างไสวแทนแสงนวลใยของพระจันทร์


            ทุกแห่งหนล้วนแต่มีสิ่งสวยงามเย้ายวนให้หลงใหลจากภายนอก เบื้องหน้าหากกวาดตามองอย่างไร้ความพินิจพิเคราะห์ล้วนมีแต่ความสว่างผุดผาด....แต่จะมีสักกี่คนที่ล่วงรู้....


ว่ายังมีบางสิ่งบางอย่างที่มืดมน เงียบเชียบอยู่แทรกระหว่างแสงเจิดจรัส ให้แสงเหล่านั้นช่วยพรางกาย แล้วค่อยๆคืบคลานบดบังและค่อยๆผันแปรความสว่างไสวแสบตานั้นให้กลายดับมอดกลายเป็นความมืดมิด... ดั่งผีเสื้อกลางคืนที่สยายปีกใหญ่แฝงเร้นกายภายใต้หลอดนีออน






มุมหนึ่งของตึกร้าง


ปังๆ! ปัง! ปัง!


          ตุบๆๆๆๆ


เสียงก้องกัมปนาทของอาวุธสงครามกระบอกย่อมๆยิงตอบโต้กันระหว่างบุคคลสองกลุ่ม ณ ที่แห่งนี้ไม่มีแสงใดๆส่องเล็ดลอด จะมีก็เพียงประกายไฟแปลบปลาบจากปากกระบอกปืน เครื่องมือสังหารนับสิบที่หันใส่กันอยู่ทุกวินาที ไม่มีกลิ่นของทรายและทะเล มีเพียงกลิ่นคาวคละคลุ้งของเลือดที่เจิ่งนองระคนไปกับกลิ่นของเขม่า กลุ่มชายฉกรรจ์ในสูทและแว่นตาดำห้าคนกำลังวิ่งหนีบางสิ่งบางอย่างที่ไล่ล่าอย่างสุดชีวิต กระสุนในลูกโม่เหลืออยู่เพียงคนละนัดสองนัด แต่ตอนนี้กลับยิงมันคุ้มหลังตัวเองอย่างไร้ค่าด้วยความหวาดผวาหวั่นกลัว...


กลัวอีกฝ่ายที่แข็งแกร่งราวกับกลุ่มของพญามัจจุราช


พวกเขาย่างกรายไล่ล่าอย่างสง่างามเยือกเย็น เสียงรองเท้าหนังกระทบกับพื้นปูนดังตึก...ตึก ก้องกังวานเป็นจังหวะชวนระทึก ผู้นำกลุ่มที่ยืนอยู่ข้างหน้าสุดยกกระบอกปืนขึ้นเล็งเจ้าพวกมดปลวกตัวจ้อยที่หลงเหลือ ริมฝีปากบางกระตุกยิ้มเหยียดเล็กน้อย ก่อนที่นิ้วชี้เรียวจะลั่นไกปืน


          ปังๆๆๆ! ปังๆๆ!


“โลกแห่งความมืดนี้ไม่ได้กว้างพอที่จะให้พวกอ่อนแออย่างพวกแกมีชีวิตอยู่” น้ำเสียงทุ้มหวานทิ้งเอาไว้เพียงคำพูดปิดท้ายส่งวิญญาณให้กับศพชายฉกรรจ์เกลื่อนกลาดพื้น ก่อนจะก้าวขาขึ้นรถสีดำสนิทพร้อมด้วยผู้ติดตามแล้วแล่นหายไปกับความมืดมิดของอนธกาล








เฟอร์รารี่รุ่นล่าสุดคันเพรียวเป็นผู้นำขบวน ตามด้วยรถยุโรปหรูอีกสองคันขับเคลื่อนตามเข้ามาจอดอย่างเงียบเชียบหน้าคฤหาสน์หลังมหึมาโอฬารสีขาวยวงงาช้าง อาณาบริเวณคฤหาสน์ตกแต่งด้วยพื้นหินอ่อนสีเทามูลค่ามหาศาล พรรณไม้หายากจากทุกทวีปทั่วโลกจัดวางอย่างลงตัวเฉิดฉายบนพื้นหญ้าเตียนหนานุ่มเบื้องหน้าคฤหาสน์ อีกทั้งน้ำพุขนาดใหญ่สูงราวสามเมตรสลักเสลาเป็นลวดลายเทพเจ้าจีนโบราณโดดเด่นพ่นหยาดน้ำโค้งพรูร่วงลงสู่สระทรงกลมขนาดย่อมที่เลี้ยงปลาสวยงามราคาแพงไว้ร้อยกว่าตัว...รอบข้างประดับตกแต่งด้วยต้นสนสูงทรงเรียวเป็นแถวเป็นแนวสวยไร้ที่ติ...ทั้งหมดทั้งมวลเผาผลาญมูลค่าทรัพย์ไปไม่ต่ำกว่าห้าร้อยล้านเหรียญ แต่เพียงเท่านี้ไม่ระคายแม้ขนหน้าแข้งของเจ้าของคฤหาสน์หลังนี้สักนิด


เบื้องหน้าคือเจ้าของธุรกิจเหมืองอัญมณีสิบกว่าแห่งทั่วทั้งฮ่องกงและแผ่นดินม่านไม้ไผ่ ซ้ำยังพ่วงกิจการโรงแรมหรูริมชายหาดผู้ทำรายได้มหาศาลเป็นทุนทรัพย์อันดับต้นๆของประเทศและเป็นที่จับตามองของเหล่าสื่อมวลชน


แต่เบื้องหลังนั้นเล่า...


ตระกูลเจ้าพ่อมาเฟียใหญ่สืบทอดมาหลายรุ่นอายุ กลุ่มบุคคลผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในเกาะฮ่องกงและเอเชียทวีป


....ตระกูลโกคุเดระ....


ร่างโปร่งบางในชุดสูทสีดำสนิทตัวเล็กกะทัดรัดก้าวเท้าลงจากเฟอร์รารี่คันงาม เรือนผมสีเงินสะบัดพลิ้วเป็นประกายล้อแสงแดดยาปวมเจ้าตัวสะบัดศีรษะ ดวงหน้าขาวเนียนกระจ่างงดงามเกินกว่าบุรุษเพศพึงมีเชิดขึ้นเล็กน้อย ก่อนนิ้วเรียวจะเกี่ยวแว่นตากันแดดสีทึบออกจากดั้งจมูกโด่งเชิดช้าๆ เผยให้เห็นดวงตาสีมรกตน้ำงาม ในดวงตาคู่นั้นฉายแววความมั่นใจในตัวเองสูง ทะเยอทะยาน ไม่ยอมจำนนต่อใครในใต้หล้า ริมฝีปากบางแดงเหยียดยิ้มเหมือนโลกทั้งใบมีตูข้าเป็นพระเจ้า!


เขาคือ โกคุเดระ ฮายาโตะ ทายาทเพียงหนึ่งเดียวของตระกูล ในอนาคตทั้งวงการมาเฟียและแวดวงธุรกิจของฮ่องกงอันแสนใหญ่โตทั้งหมดทั้งมวล จะลดลงเหลือเพียงขนาดกระจิ๊ดริดแล้ววางอยู่บนฝ่ามือของเขาแน่นอน! หึ...หึ
สิ้นสุดอารัมภบทเปิดตัวสมบูรณ์แบบที่งดงามเป็นบุญแก่สายตา เรียวขาก้าวเดินเข้าไปในคฤหาสน์ ผ่านการคำนับก้มหัวของเหล่าชายชาตรีชุดดำที่ยืนเรียงรายต้อนรับด้วยมาดราวกับถอดแบบมาจากนางพญาซูสีไทเฮา


แต่...เหนือนางพญาย่อมมีจอมนางพญา เหนือไทเฮาต้องมีไทหวง!!


“ฮายาโตะ!!! แกไปไหนมากลับมาเอาป่านนี้ ไปเที่ยงคืนกลับเที่ยงวัน นี่ฉันให้แกไปจัดการแบบเงียบๆ เร็วๆ เงียบแล้วก็เร็วน่ะ แกไม่เข้าใจรึไงหะ!


ใช่แล้ว มีอยู่คนเดียวที่เจิดจรัสบดบังรัศมีความเด่นยามเที่ยงของโกคุเดระ ฮายาโตะได้ ก็มีเพียงเข้าผู้นี้ เจ้าบ้านตระกูลโกคุเดระที่อายุอานามก็ไม่ใช่จะน้อยแต่ยังคงความสง่างามผ่องแผ้วในชุดจีนตัวยาวสีแดงสดลายมังกรทองคาบแก้วพาดรอบตัวแสดงความองอาจอำนาจเรืองรอง เรือนผมสีแดงระต้นคอเพรียวระหง ใบหน้าขึงตึงหงุดหงิดจัดมีรอยสักน่าเกรงขามวาดไปถึงครึ่งหน้า ดวงตาสีเดียวกับเส้นผมจ้องเขม็งมายังร่างบางไฟแทบลุก


เขาคือผู้กำอำนาจสูงสุดของตระกูลโกคุเดระ ย้ำ! ว่าสูงที่สุด สูงเสียดฟ้าชนิดที่ว่าทายาทร่างบางผู้เก่งกาจคนนี้ไม่กล้าแหยม อำนาจบาตรใหญ่ที่พกเต็มกระเป๋าลดฮวบไหลไปเพิ่มบารมีให้อีกฝ่ายจนหมดจนสิ้น!



...โกคุเดระ จี...



“โธ่ อากง ไอ้พวกนั้นที่มันมาแอบสืบเสาะในเขตเรา หนูก็จัดการมันไปตั้งแต่ตีหนึ่งแล้ว แต่ก็นึกได้อ่ะว่าเผื่อมันไปล้วงข้อมูลที่บริษัทเอาไปเผยแพร่ให้ไอ้พวกตำรวจ ก็เลยไปตรวจสอบจนถึงเที่ยง” ร่างบางอธิบายฉะฉาน แต่ก็ไม่ทำให้อากงสุดที่รักของตนคลายความอารมณ์เสียได้แม้แต่น้อย ดีไม่ดีย่นไปอีกหลายเท่า ทำให้เจ้าหลานตัวดีรีบปรี่เข้าไปกอดแขนเอาใจ


“กงอย่าอารมณ์เสียน่า นะๆ เครียดมากๆตีนกาขึ้นนะ”


“ไม่ต้องมาแช่งฉัน! มัวเอ้อระเหยลอยลมแบบนี้ใช้ได้ที่ไหน งานของแกยังมีอีกเยอะเฟ้ย!” จีสะบัดตัวออกจากมือเล็กที่เกาะแน่นอยู่ตรงต้นแขน แต่เห็นว่าจะไร้ประโยชน์ เพราะหลานคนงามโกคุเดระ ฮายาโตะคนนี้พอได้ยินคำว่า งานจะ กระปรี้กระเปร่า เป็นบ้าเกินเหตุ มือบางที่ว่าเบี่ยงหลุดไปแล้วได้เกาะติดหนึบอีกครั้ง คราวนี้เกาะไม่พอ เขย่าด้วย


“อะไรๆ กง งานอะไร ให้ไปกวาดแก๊งค์ไหนอีกอ่ะ”


“ไม่ได้จะให้ไปกวาด แต่จะให้ไปเก็บ” คำตอบรับกลับมาถึงทำให้ทายาทโกคุเดระขมวดคิ้วเรียวสวย อากงจีจึงเดินไปหยิบแผ่นกระดาษบางอย่างบนโต๊ะหยกลายหงส์หกปีกมากางพรึ่บตรงหน้าเขา ดวงหน้าสวยสง่ายื่นเข้าไปใกล้ ก่อนที่ดวงตาสีมรกตจะกวาดซ้ายขวาเริ่มอ่านอย่างคร่าวๆ


สิ่งแรกที่สะดุดตาเห็นจะเป็นรูปที่มีขนาดใหญ่ถึงครึ่งหน้ากระดาษ รูปกระบี่ยาวสีทองงดงามเลื่อมพรายวางอยู่บนขาตั้งสีดำ ประดับประดาด้วยมุกสีขาวยวงล้ำค่าตามฝักถึงเจ็ดเม็ด ตรงด้ามผูกด้วยพู่ไหมสีแดงสห้อยระย้า ยังไม่นับลวดลายสลักเสลาตามฝักซึ่งเก็บลายละเอียดทุกเส้นได้คมอัศจรรย์เป็นรูปหงส์กำลังกางปีกโผผินอย่างสง่างามคลอล้อไข่มุกอีกเจ็ดตัว แม้ยังไม่ชักกระบี่ออกจากฝัก โกคุเดระ ฮายาโตะก็สัมผัสได้ถึงมนตร์ขลัง ความมีเสน่ห์ล้ำค่าที่เปล่งประกายแม้เพียงรูปก็สามารถดึงดูดสายตาให้หลงใหล นับว่าเป็นความงดงามของอาวุธชั้นสูงอันดับหนึ่งก็ว่าได้


“เป็นกระบี่ที่สวยมากเลยอ้ะ อากง...อากงอยากได้มั้ย ส่งหนูไปเอามันมาก็ได้นะกงนะ” เจ้าหลานตัวดีเสนอตัวทั้งๆที่สายตาวิบวับยังจับจ้องกระบี่งามไม่กระพริบ จนกระทั่งท่านกงจีกระชากกระดาษออกจากสายตานั่นล่ะ ถึงจะยอมมองหน้ารอรับคำตอบได้


“ก็กระบี่เล่มนี้แหล่ะ ที่ฉันจะให้แกไปเก็บมาจากงานประมูลคืนนี้ ฟังฉันนะฮายาโตะ งานนี้เราพลาดไม่ได้เด็ดขาด เราต้องได้กระบี่นี่มาครอบครอง ฉันจะจัดเงินสำหรับประมูลให้แกเองไม่ต้องห่วง เป็นตายร้ายดีแกก็ต้องประมูลมันมาให้ได้ อย่าให้ใครแย่งไป โดยเฉพาะ...”


“ไอ้ตระกูลยามาโมโตะ ตระกูลกลุ่มนักธุรกิจการบันเทิงภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคไร้สาระ รูปไม่หล่อ พ่อไม่รวย เหล่าอาหมวยไม่เอา และสุดท้ายไม่เลิศเลอเร้าใจเท่าตระกูลเราใช่มั้ยกง!


“ใช่!! ไอ้พวกยามาโมโตะนั่นแหล่ะ ฉันว่างานนี้ไอ้แก่อุเก็ตสึได้ส่งหลานมันไปแน่ๆ ฉันก็เลยต้องส่งแกไปชนมันไง” มือของผู้นำตระกูลจีตบป้าบลงบนไหล่เล็กๆจนเกือบทรุด แต่พ่อหลานคนเก่งก็ยังฉีกยิ้มหวาน พร้อมรองรับศักดิ์ศรีและหน้าตาของตระกูลอันแสนหนัก(มาก)ที่ท่านกงของเขาเหนี่ยวมาเต็มแรงเอาไว้บนบ่า....เรื่องคู่แข่งการเงินประมูลไม่มีใครมาเทียบรัศมีของเขาได้หรอก อะไรก็ตามที่ตระกูลโกคุเดระอยากได้ มันต้องมากองแทบเท้าไม่เร็วก็เร็วมาก!


ส่วนไอ้ตระกูลยามาโมโตะน่ะรึ เฮอะ! จิ๊บจ๊อยเฟ้ย!


“เอ้อ กง หนูถามหน่อยดิ ทำไมกงอยากได้กระบี่หรูๆนี่จัง มันมีความสำคัญอะไรหรือเปล่า?” ใช่ มันแปลกมากจริงๆที่กระชับนักกระชับหนา ถึงขั้นบอกว่าห้ามพลาดเด็ดขาด ซ้ำยังทุ่มทุนจัดการกำลังทรัพย์เองอีกต่างหาก ทั้งๆที่เมื่อก่อนออกจะเค็มทะเลเรียกเฮีย


ผู้นำตระกูลโกคุเดระได้ฟังคำหลานถามแล้วก็ได้ชะงักกึกแล้วนิ่งงันไปจนผิดสังเกต ก่อนจะค่อยๆหันมาประจันหน้ากับร่างบางอีกครั้ง ดวงตาสีแดงจางจ้องหน้าหลานอย่างจริงจังไม่สั่นไหว น้ำเสียงทุ้มเย็นอย่างที่นานๆทีได้ยินครั้งเน้นย้ำช้าๆทีละคำ


“แกรู้เอาไว้แต่เพียงว่า กระบี่เล่มนี้ชื่อปักษามุกดา เป็นของสำคัญต่อตระกูลของเรามาก...แค่นั้นก็พอ”


ทุกถ้อยคำพูดซึมลึกเข้าไปในใจของผู้รับงานไปนำของสำคัญของตระกูล เพียงแค่ได้ยินชื่อ ในหัวใจของทายาทตระกูลโกคุเดระก็เต้นแรง ความรู้สึกอบอุ่นคุ้นเคยสมควรแก่การหวงแหนและปกปักษ์รักษาเข้ากอบกุมหัวใจ ทั้งๆที่เขาเองก็ไม่ใช่พวกนิยมชมชอบของสวยๆงามๆเท่าไรนัก ธุรกิจอัญมณีก็นานๆไปดูที แต่ไม่รู้ว่าทำไมกับกระบี่เล่มนี้ มันเหมือนสิ่งของสูงค่าสำหรับเขาเหลือเกิน...



ปักษามุกดา...









20:00 PM. โรงแรมหรูชื่อดังกลางกรุงฮ่องกง


หน้าโรงแรมหรูห้าดาวสูงเสียดฟ้าที่ธรรมดาปกติก็จะคับคั่งไปด้วยบุคคลระดับสูงกระเป๋าหนักเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว บัดนี้ยิ่งเป็นเหมือนศูนย์รวมเหล่ากลุ่มนายทุน เจ้าของกิจการชั้นนำ หรือเหล่าดารานักแสดงมือหนึ่งแห่งโลกมายาก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น พาหนะหรูมูลค่าคันละเหยียบหลายล้านจอดคลาคล่ำแน่นสถานที่จัดเตรียม และไม่ว่าจะมองไปทางใดก็จะเห็นบุรุษอยู่ในชุดสูทหรือทักซิโด้ดูภูมิฐาน บนนิ้วสวมแหวนไม่ต่ำกว่าสามวง


ส่วนสตรีเหล่าคุณหนูคุณนายนั้นน่ะหรือ พวกเจ้าหล่อนอยู่ในชุดราตรียาวที่สั่งตรงมาจากบูติกทั่วยุโรป บนลำคอและติ่งหูไม่ว่างเว้นจากเครื่องประดับอัญมณีแวววาวพราวพราย ส่วนจะเก๊จะจริงเหมือนพวกหล่อนจะไม่สน เพราะอยู่ท่ามกลางแสงแชนเดอเลียคริสตัลมันก็ส่องประกายความรวยได้พอๆกัน ส่วนเหล่าอาซิ้มอาซ้อชาตินิยม พวกเธออวดโฉมอยู่ในชุดกี่เพ้าสีแดงสดแหวกถึงเหนือเข่าอวดเรียวขาขาว เส้นผมดำสนิทเกล้าตลบขึ้นสูงพร้อมปักปิ่นทองคำ เสียบหวีเพชรกันอย่างงดงาม พร้อมมองกล้องโน้นกล้องนี้ฉีกยิ้มสวยหวานรับแสงแฟลชที่สาดส่องเรือนร่างตนเองอยู่ทุกวินาที


เฟอร์รารี่ F430 Scuderia คันหรูเจ้าเดิมนำขบวนรถยุโรปติดตามอีกราวห้าหกคันแล่นฉิวมาจอดเทียบท่าหน้าโรงแรม ดวงตาสีมรกตน้ำงามของผู้นั่งอยู่เบาะข้างคนขับเหลือบไปเห็นรถคันหน้าที่จอดก่อนเขาไม่กี่วินาที BMW Series7 รุ่น750Li สีบลอนด์เงินเป็นเงาวาววับ เขาจำได้แม่นติดตาเพราะมันคือรถยนต์ส่วนตัวสุดรักสุดหวงของทายาทแห่งตระกูลยามาโมโตะผู้เป็นเจ้าของสโลแกนตกอับผู้นั้นนั่นเอง....


และแล้วริมฝีปากบางแดงเหยียดยิ้มเล็กน้อย  หึ...หึ ทำไมน่ะหรือ?


ไม่เคยได้ยินหรือไงว่าคนมาทีหลัง.....เด่นกว่า!!


คนขับรถส่วนตัวค่อยๆเปิดประตูรถ ก่อนจะเดินนำแล้วเปิดประตูห้องจัดเลี้ยงและจัดประมูลออก


พรึ่บ....แอ๊ดดดด...


เป็นเสมือนการเปิดกล่องกำมะหยี่ให้เพชรกะรัตงามฉายแสง เหล่าบรรดาบุคคลชั้นนำผู้อยู่ข้างในทุกคนเบิกตากว้าง แก้วไวน์ลดลงจากริมฝีปากแล้วหยุดนิ่งทุกอากัปกิริยา สายตาจับจ้องผู้มาใหม่ตรงประตูทางเข้าไม่กระพริบ กล้องทุกตัวหันขวับเล็งมาทางเขาแล้วรัวแฟลชไม่ยั้ง แสงสปอร์ตไลท์สามดวงจากทีมงานฉายส่องพรึ่บพรั่บอย่างไม่ต้องบอกไม่ต้องกล่าว!


ร่างโปร่งบางในทักซิโด้สีดำสนิทขับผิวเนื้อให้ยิ่งขาวผ่องกระจ่าง คิ้วเรียวโค้งโก่งรับกรอบแว่นกันแดดสีดำทึบที่แม้เป็นเวลากลางคืนก็ต้องใส่เสริมเสน่ห์ ริมฝีปากบางสวยหยักยิ้มน้อยๆเป็นเชิงทักทายทุกคน ก่อนที่นิ้วเรียวจะเกี่ยวแว่นตาดำออกจากดั้งจมูกโด่งรั้นช้าๆร่ำไร เรือนผมดุจเส้นไหมชั้นเอกสะบัดพลิ้ว ดวงตาสีเขียวคู่สวยน่าหลงใหลมองทอดไปทั่วงานราวกับร่ายมนตร์สะกด เขาเงยใบหน้างามสง่าขึ้นเล็กน้อย แล้วพร้อมสดับรับฟังสำเนียงเสียง........


“กรี๊ดดดดดดดดดดดดด ยินดีต้อนรับค่ะ คุณหนูฮายาโตะ!!


พร้อมเพรียงไพเราะเสนาะโสตสมบูรณ์แบบ...


ทุกๆ งานต้องเป็นแบบนี้ประจำ เมื่อใดที่โกคุเดระ ฮายาโตะบุคคลฟินาเล่ของงานปรากฏตัว เขาจะตราตรึงทุกประสาทสัมผัสและจิตวิญญาณของผู้มอง แม้ว่าบนตัวจะไม่มีเครื่องประดับมีค่าอะไรมากมาย เครื่องแต่งตัวเป็นไปตามสุภาพชนพึงมีไม่ได้เลิศเลอ แต่คนๆนี้กลับเฉิดฉายสง่างามยิ่งกว่าบุรุษและสตรีใด ผู้หญิงคนไหนที่เห็นเขาเป็นต้องเคลิ้ม หน้าแดงเป็นลูกตำลึงสุก ส่วนผู้ชายก็ไม่แคล้วหลงใหลไปกับความงามสูงส่งมองด้วยสายตาหยาดเยิ้มปานจะกลืนกินเข้าไปทั้งตัว



เป็นไง...บอกแล้วว่าเด่น!



“โกคุเดระคุง เด่นอีกแล้วนะ” พลันก็มีเด็กหนุ่มร่างเล็กผมฟูสีน้ำตาลไหม้เดินเข้ามาทักทาย ยิ่งทำให้บริเวณตรงนั้นเป็นที่จับตามองมากขึ้น ช่างถ่ายรูปบางคนรัวชัตเตอร์จนมือแทบหงิก ก็คนๆนี้คือ ซาวาดะ สึนะโยชิ ทายาทคนปัจจุบันของซาวาดะกรุ๊ป ผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และโรบอทรายใหญ่ที่สุดในเกาะฮ่องกง ซ้ำเบื้องหลังยังเป็นผู้กำกุญแจสำคัญเปิดคลังอาวุธยุทโธปกรณ์ล้ำสมัยของวงการมืดซึ่งมีตระกูลโกคุเดระนั้นเป็นลูกค้ารายใหญ่


โกคุเดระยิ้มให้เพื่อนสนิทและพันธมิตรการค้าอันดับหนึ่งซึ่งตัวเขาเองให้ความเคารพและเกรงใจมาแต่ไหนแต่ไร


“สวัสดีครับ คุณซาวาดะ ยินดีที่ได้พบในงานประมูลแบบนี้ครับ”


“เปล่าหรอกๆ” สึนะโยชิส่ายหน้า “ฉันไม่ได้มาประมูลหรอกนะ แค่มาพบปะสังสรรค์กับพวกผู้ใหญ่ตามคำสั่งเตี่ย”
แต่แล้วริมฝีปากบางก็หุบยิ้มเปลี่ยนแปลงเป็นสีหน้าเครียดจริงจัง ดวงตาสีน้ำตาลกลมโตกลอกไปมารอบข้าง ก่อนจะเข้ากระซิบเบาๆที่หูเพื่อนรัก “แล้วให้มาสังเกตการณ์คู่แข่งรายใหม่ที่เปิดตัวมาแรงเมื่อไม่นานมานี้ด้วย”


“ฮะๆ เหนื่อยหน่อยนะครับ”


อา...ว่าแล้วมั้ยล่ะ...สมกับเป็นทายาทตระกูลมาเฟีย มีเบื้องหน้าเบื้องหลังที่แตกต่างกันราวฟ้ากับเหวจริงๆ น่าเห็นใจคนที่ประสบชะตาเดียวกันจัง...


“แล้วมางานนี้ โกคุเดระคุงเล็งอะไรไว้อ่ะ โห....เอาจริงนะเนี่ย เตรียมเงินมาเพียบเชียว” ดวงตาสีน้ำตาลเบิกโตเมื่อเห็นกระเป๋าเซฟสีเงินที่เหล่าผู้ติดตามแต่ละคนของเขาถือเอาไว้ มือบางลูบหัวตัวเองอย่างปลงหนัก แล้วยิ้มแห้งๆตอบอีกฝ่าย


“ก็อากงผมแกกำชับมาน่ะครับว่าต้องมาประมูลกระบี่ปักษามุกดาให้ได้ กงแกเลยจัดหนักมาแบบนี้แหล่ะ มีเท่าไหร่ผมยังไม่รู้เลย แหะๆ”


“ปักษามุกดาเหรอ?...อากงจียังตาแหลมเสมอเลยนะ งานนี้น่ะกว่าแปดสิบเปอร์เซ็นต์ของผู้เข้าร่วมประมูลก็จ้องเก็บปักษามุกดากันทั้งนั้นแหล่ะ สู้เขาแล้วกันนะ โกคุเดระคุง”


“ขอบคุณครับ งานนี้ผมไม่ยอมแพ้ใครเด็ดขาด โดยเฉพาะไอ้ตระกูล...!


“ตระกูลยามาโมโตะของผมใช่มั้ยครับ คุณหนูโกคุเดระ” ทันใดนั้นเสียงของทายาทโกคุเดระคนเก่งก็กลืนหายลงคอเมื่อเห็นบุคคลที่มาใหม่ยืนเด่นเป็นสง่าอยู่ตรงประตูทางเข้าด้านตรงข้าม 


เขามีเรือนผมสีดำสนิทถูกเซตให้ชี้ตั้งด้วยเยลกระปุกละหลายพัน คิ้วหนาเข้มรับกับดวงตาคมกริบสีน้ำตาลเปลือกไม้ จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากหยักได้รูปกำลังกระตุกยิ้มเพื่อกวนประสาทเขาโดยเฉพาะ ชุดสูทสีดำและเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินยิ่งเสริมให้ร่างสูงดูดีมาดแมนสมชายชาตรี ใบหน้าหล่อเหลาเปื้อนยิ้มหวานเบือนไปหาเหล่ากลุ่มบุคคลที่พุ่งสายตาหันขวับไปมองเหมือนจะหว่านเสน่ห์ใส่อย่างน่าหมั่นไส้ เสียงวิพากษ์วิจารณ์ชื่นชมเริ่มฮือฮาเซ็งแซ่แล้วเหล่าตากล้องที่ได้เหยื่อใหม่ก็พากันวิ่งกรูไปสาดแสงแฟลชในบัดดล ไม่พอๆ นักข่าวสาวเล็ก หนุ่มใหญ่ยังถือไมโครโฟนวิ่งฮือเข้าไปเบียดจ่อที่ปากของมันไม่ต่ำกว่าสิบตัว


มันคนนี้แหล่ะ!! มันคนนี้แหล่ะที่ชื่อ ยามาโมโตะ ทาเคชิ!!!


รูปมันไม่หล่อ!


“แหม...ไม่คิดเลยนะคะว่าท่านใหญ่อาซาริ อุเก็ตสึ จะปล่อยให้หลานชายหัวแก้วหัวแหวนมางานประมูลเป็นเป้าสายตาขนาดนี้  ทั้งสืบทอดกิจการใหญ่ ทั้งแสดงละคร ถ่ายโฆษณา เดินแบบ หล่อชนิดเทวดาส่งมาเกิดจริ๊งๆ”


พ่อมันไม่รวย!


“เดี๊ยนได้ข่าวว่าตระกูลยามาโมโตะบริจาคให้กับงานประมูลนี้เพื่อการกุศลถึงแปดสิบล้านเหรียญเลยนะเคอะ! แต่ว่าคุณชายทาเคชิน่ะ ยังจะเข้าร่วมประมูลสินค้าอีกหลายรายการ ฮิฮิ รวยขนาดนั้นคงไม่สะทกสะท้านหรอกเค่อะ”


เหล่าอาหมวยไม่เอา!


“อีชั้นก็สืบทราบอีกค่ะว่าตอนนี้คุณชายแกยังโสดสนิทจริงๆไม่ติงนัง เพิ่งเลิกกับดาราสาวหลันเหมย กิ๊กคนที่ห้าสิบแปดไปหมาดๆค่ะคุณพี่ขา ฮุฮุ ก็ดีนะคะ คุณลูกเหม่ยฉีของอีชั้นจะได้เสียบแทน ฮุๆๆๆ”


เอิ่ม...


พอเถอะ! อย่าให้ต่อถึงข้อสุดท้ายเลย แค่นี้เขาก็อยากไปกระชากหน้าหล่อๆของหมอนั่นมาโขกพื้นห้องจัดเลี้ยงอยู่แล้ว คนบ้าอะไรน่าฆ่าโคตรๆ โผล่มาทีหลังแย่งซีนยังไม่พอ แล้วนี่มันคิดจะมาประมูลแย่งของๆโกคุเดระ ฮายาโตะผู้เลิศเลอเพอร์เฟคคนนี้อีกล่ะสิ เชอะ! ฝันไปเถอะเว้ย!! ถ้ามาแย่งกระบี่ปักษามุกดาจริงๆแล้วล่ะก็เขาเป่ามันดับกลางงานแน่ ไม่สนมันหรอกไอ้ภาพพจน์คุณหนูตระกูลไฮโซชื่อดัง แท้จริงเขาเป็นทายาทแก๊งค์มาเฟียผู้เก่งกาจไม่มีใครกล้าหือต่างหาก ถึงแม้ว่าเบื้องหลังคุณชายผู้ดีตีนแดงของอีกฝ่าย จะมีอิทธิพลทางโลกมืดอย่างล้นพ้นไม่แพ้เขาเหมือนกันก็เถอะ


แต่ว่าอีกคนที่เปล่งรัศมีความดูดีมีชาติตระกูลไม่แพ้กันที่ยืนอยู่ข้างๆยามาโมโตะนั่นไม่คุ้นตาคุณหนูโกคุเดระเลยแม้แต่นิด ดวงหน้ามนหล่อเหลาสะอาดสะอ้านมีเสน่ห์ เรือนผมสีน้ำเงินไพลินยาวถูกมัดรวบเอาไว้เรียบร้อย ดวงตาที่ฉายแววเจ้าเล่ห์คู่นั้นมีสองสีที่ตัดกัน ข้างหนึ่งสีแดงฉาน ส่วนอีกข้างสีน้ำเงินงดงามเหมือนเรือนผม รูปร่างสะโอดสะองของเขาอยู่ในชุดทักซิโด้สีขาวเรียบกริบไม่มีรอยยับแม้เท่าเส้นขนแมว แต่จะเป็นใครก็แล้วแต่ คุณหนูโกคุเดระขอหมายหัวเอาไว้ว่าน่าหมั่นไส้ทันทีเพราะมันดันเดินมากับไอ้คุณชายยามาโมโตะ ทาเคชิแล้วมาหยุดอยู่ตรงหน้าเขากับเพื่อนร่างเล็ก แถมยังมองด้วยสายตาหยอกล้ออย่างเสียมารยาท


เปรี๊ยะ! ครืนน...


นับว่าเป็นปรากฏการณ์ชวนระทึกใจเต้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน เมื่อเด็กหนุ่มสี่คนทายาทนักธุรกิจชั้นนำมายืนประจันหน้ากันกลางงานประมูล สงครามจิตวิทยาทางสายตาย่อมๆได้เริ่มขึ้น แววตาของแต่ละคนสบประสานเป็นประกายแล่นเปรี๊ยะปร๊ะ บรรยากาศเร่าร้อนค่อยๆคืบคลานห้องแอร์เย็นฉ่ำอย่างช้าๆ


“ไม่คิดว่าจะได้เจอกันที่นี่นะ โรคุโด มุคุโร่” สึนะโยชิทัก ดวงหน้าน่ารักตอนนี้แต่งแต้มด้วยรอยยิ้มที่ปั้นแต่งมาอย่างชั้นเซียน ซึ่งแม้ว่าโกคุเดระจะสงสัยว่าเพื่อนของเขาไปรู้จักมักคุ้นกับหมอนี่ตั้งแต่เมื่อไหร่แต่ก็ยังไม่กล้าถาม เพราะเจ้าคนที่ชื่อโรคุโด มุคุโร่ก็ใช่เล่น กล้าตีสีหน้ายิ้มพรายมองทายาทซาวาดะกรุ๊ปกลับอย่างไม่เกรงกลัวซะด้วย


“ครับ...บังเอิญจริงๆด้วย อืม...แบบนี้ต้องโทษอะไรดีล่ะครับ พรหมลิขิต ฮวงจุ้ย หรือต้องโทษความตั้งใจของสึนะโยชิคุงกันแน่น้า...”


โอวววว สุดยอดมาก ถ้ามีคะแนนความกล้าเอาเต็มไปเลย!


“แล้วคุณหนูโกคุเดระที่มาปรากฏกายในค่ำคืนนี้ ต้องการอะไรกลับไปล่ะครับ” เสียงนุ่มทุ้มของคนเบื้องหน้าอีกคนทำให้โกคุเดระถลึงดวงตามองกลับ ดวงหน้าคมคายกำลังแย้มยิ้มให้เขาด้วยไมตรีจิตเต็มเปี่ยม แต่ขอโทษที ไม่ได้ต้องการสักนิด!


“ฉันจะมาเอาอะไรมันก็เรื่องของฉัน ไม่เกี่ยวกับแก แต่จำใส่กะโหลกกลวงๆของแกเอาไว้อย่างเดียวว่า แก!แพ้!ฉัน!แน่!...ฮึ! ไปครับ คุณซาวาดะ” คุณหนูโกคุเดระคว้าข้อมือเพื่อนรักแล้วสะบัดหน้าเดินหนีหายไปนั่งรอเตรียมประมูลทันที โดยมีดวงตาสองคู่มองตามไปอย่างยิ้มๆ มีอะไรบ้างที่จะหนีรอดพ้นสายตาของสองสหายหนุ่มผู้หล่อเหลาไม่มีใครเทียม ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่มองเห็น หรือมองไม่เห็นก็ตาม


“คึหึหึหึ งานนี้น่าสนุกนะครับยามาโมโตะคุง มีคนมาตามจับตามองจริงๆซะด้วย”


“ก็ธุรกิจนายดันเติบโตเกินหน้าเกินตาคุณหนูซาวาดะเขาซะขนาดนั้น เขาก็ต้องเดือดร้อนเป็นธรรมดา แต่ที่ผมสงสัยเป็นใคร หรืออะไรมากกว่าที่ล่อหลอกผีเสื้อราตรีผู้งดงามคนนั้นให้ออกมาบินโฉบล้อแสงนีออนยามค่ำคืนแบบนี้”


“โอ๊ะ โอ ไม่น่าจะใช่แสงนีออนหรอกนะครับ...”


“ใช่...” ยามาโมโตะเห็นด้วยกับความคิดหลักแหลมของเพื่อนรักที่ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็มองทะลุปรุโปร่ง “น่าจะเป็นแสงสะท้อนพรายระยับจากผิวสลักสีทอง และไข่มุกงามเจ็ดเม็ด....ปักษามุกดา”



.


.


.

TBC...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น