Project : Happy Birthday Kazahaya san
S.Au.Fic KHR [8059]
Romantic Comedy
PG
คำเตือน : เนื้อหาในเอนทรีนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย
หากท่านใดไม่ต้องการรับรู้หรือรับไม่ได้ กรุณาปิดหน้าต่างนี้ไปค่ะ
ปักษามุกดา
ตอนที่ 1
ฮ่องกง เขตการปกครองพิเศษที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของจีนแผ่นดินใหญ่ซึ่งนับว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งอารยธรรมความเจริญก้าวหน้าทั่วทุกด้านแห่งเอเชียทวีป
ดินแดนที่เป็นเกาะท่ามกลางมหาสมุทรแปซิฟิกอันกว้างใหญ่ไพศาลส่งเสริมให้ฮ่องกงในปัจจุบันรุ่งเรืองทั้งด้านการค้า
คมนาคม การท่องเที่ยวและอุตสาหกรรม ยามกลางวัน
เมื่อแสงอาทิตย์สาดส่องจับต้องกับห้วงมหรรณพแลเห็นประกายบนผิวน้ำราวเพชรกะรัตงามแวววาวดาษดา
แต่หากในยามราตรี ดั่งแสงแห่งความศิวิไลซ์ที่ถูกเก็บซ่อนเอาไว้เริ่มกระพริบเจิดจ้า
ดวงไฟนีออนนับพันล้านหมื่นล้านดวงตามประสากรุงใหญ่จะเป็นผู้ย้อมสีดำมืดมิดแห่งท้องฟ้ายามรัตติกาลให้สว่างไสวแทนแสงนวลใยของพระจันทร์
ทุกแห่งหนล้วนแต่มีสิ่งสวยงามเย้ายวนให้หลงใหลจากภายนอก เบื้องหน้าหากกวาดตามองอย่างไร้ความพินิจพิเคราะห์ล้วนมีแต่ความสว่างผุดผาด....แต่จะมีสักกี่คนที่ล่วงรู้....
ว่ายังมีบางสิ่งบางอย่างที่มืดมน
เงียบเชียบอยู่แทรกระหว่างแสงเจิดจรัส ให้แสงเหล่านั้นช่วยพรางกาย
แล้วค่อยๆคืบคลานบดบังและค่อยๆผันแปรความสว่างไสวแสบตานั้นให้กลายดับมอดกลายเป็นความมืดมิด...
ดั่งผีเสื้อกลางคืนที่สยายปีกใหญ่แฝงเร้นกายภายใต้หลอดนีออน
มุมหนึ่งของตึกร้าง
ปังๆ!
ปัง! ปัง!
ตุบๆๆๆๆ
เสียงก้องกัมปนาทของอาวุธสงครามกระบอกย่อมๆยิงตอบโต้กันระหว่างบุคคลสองกลุ่ม
ณ ที่แห่งนี้ไม่มีแสงใดๆส่องเล็ดลอด จะมีก็เพียงประกายไฟแปลบปลาบจากปากกระบอกปืน
เครื่องมือสังหารนับสิบที่หันใส่กันอยู่ทุกวินาที ไม่มีกลิ่นของทรายและทะเล
มีเพียงกลิ่นคาวคละคลุ้งของเลือดที่เจิ่งนองระคนไปกับกลิ่นของเขม่า กลุ่มชายฉกรรจ์ในสูทและแว่นตาดำห้าคนกำลังวิ่งหนีบางสิ่งบางอย่างที่ไล่ล่าอย่างสุดชีวิต
กระสุนในลูกโม่เหลืออยู่เพียงคนละนัดสองนัด
แต่ตอนนี้กลับยิงมันคุ้มหลังตัวเองอย่างไร้ค่าด้วยความหวาดผวาหวั่นกลัว...
กลัวอีกฝ่ายที่แข็งแกร่งราวกับกลุ่มของพญามัจจุราช
พวกเขาย่างกรายไล่ล่าอย่างสง่างามเยือกเย็น
เสียงรองเท้าหนังกระทบกับพื้นปูนดังตึก...ตึก ก้องกังวานเป็นจังหวะชวนระทึก
ผู้นำกลุ่มที่ยืนอยู่ข้างหน้าสุดยกกระบอกปืนขึ้นเล็งเจ้าพวกมดปลวกตัวจ้อยที่หลงเหลือ
ริมฝีปากบางกระตุกยิ้มเหยียดเล็กน้อย ก่อนที่นิ้วชี้เรียวจะลั่นไกปืน
ปังๆๆๆ! ปังๆๆ!
“โลกแห่งความมืดนี้ไม่ได้กว้างพอที่จะให้พวกอ่อนแออย่างพวกแกมีชีวิตอยู่”
น้ำเสียงทุ้มหวานทิ้งเอาไว้เพียงคำพูดปิดท้ายส่งวิญญาณให้กับศพชายฉกรรจ์เกลื่อนกลาดพื้น
ก่อนจะก้าวขาขึ้นรถสีดำสนิทพร้อมด้วยผู้ติดตามแล้วแล่นหายไปกับความมืดมิดของอนธกาล
เฟอร์รารี่รุ่นล่าสุดคันเพรียวเป็นผู้นำขบวน
ตามด้วยรถยุโรปหรูอีกสองคันขับเคลื่อนตามเข้ามาจอดอย่างเงียบเชียบหน้าคฤหาสน์หลังมหึมาโอฬารสีขาวยวงงาช้าง
อาณาบริเวณคฤหาสน์ตกแต่งด้วยพื้นหินอ่อนสีเทามูลค่ามหาศาล
พรรณไม้หายากจากทุกทวีปทั่วโลกจัดวางอย่างลงตัวเฉิดฉายบนพื้นหญ้าเตียนหนานุ่มเบื้องหน้าคฤหาสน์
อีกทั้งน้ำพุขนาดใหญ่สูงราวสามเมตรสลักเสลาเป็นลวดลายเทพเจ้าจีนโบราณโดดเด่นพ่นหยาดน้ำโค้งพรูร่วงลงสู่สระทรงกลมขนาดย่อมที่เลี้ยงปลาสวยงามราคาแพงไว้ร้อยกว่าตัว...รอบข้างประดับตกแต่งด้วยต้นสนสูงทรงเรียวเป็นแถวเป็นแนวสวยไร้ที่ติ...ทั้งหมดทั้งมวลเผาผลาญมูลค่าทรัพย์ไปไม่ต่ำกว่าห้าร้อยล้านเหรียญ
แต่เพียงเท่านี้ไม่ระคายแม้ขนหน้าแข้งของเจ้าของคฤหาสน์หลังนี้สักนิด
เบื้องหน้าคือเจ้าของธุรกิจเหมืองอัญมณีสิบกว่าแห่งทั่วทั้งฮ่องกงและแผ่นดินม่านไม้ไผ่
ซ้ำยังพ่วงกิจการโรงแรมหรูริมชายหาดผู้ทำรายได้มหาศาลเป็นทุนทรัพย์อันดับต้นๆของประเทศและเป็นที่จับตามองของเหล่าสื่อมวลชน
แต่เบื้องหลังนั้นเล่า...
ตระกูลเจ้าพ่อมาเฟียใหญ่สืบทอดมาหลายรุ่นอายุ
กลุ่มบุคคลผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในเกาะฮ่องกงและเอเชียทวีป
....ตระกูลโกคุเดระ....
ร่างโปร่งบางในชุดสูทสีดำสนิทตัวเล็กกะทัดรัดก้าวเท้าลงจากเฟอร์รารี่คันงาม
เรือนผมสีเงินสะบัดพลิ้วเป็นประกายล้อแสงแดดยามเจ้าตัวสะบัดศีรษะ
ดวงหน้าขาวเนียนกระจ่างงดงามเกินกว่าบุรุษเพศพึงมีเชิดขึ้นเล็กน้อย
ก่อนนิ้วเรียวจะเกี่ยวแว่นตากันแดดสีทึบออกจากดั้งจมูกโด่งเชิดช้าๆ
เผยให้เห็นดวงตาสีมรกตน้ำงาม ในดวงตาคู่นั้นฉายแววความมั่นใจในตัวเองสูง
ทะเยอทะยาน ไม่ยอมจำนนต่อใครในใต้หล้า ริมฝีปากบางแดงเหยียดยิ้มเหมือนโลกทั้งใบมีตูข้าเป็นพระเจ้า!
เขาคือ โกคุเดระ ฮายาโตะ ทายาทเพียงหนึ่งเดียวของตระกูล
ในอนาคตทั้งวงการมาเฟียและแวดวงธุรกิจของฮ่องกงอันแสนใหญ่โตทั้งหมดทั้งมวล
จะลดลงเหลือเพียงขนาดกระจิ๊ดริดแล้ววางอยู่บนฝ่ามือของเขาแน่นอน!
หึ...หึ
สิ้นสุดอารัมภบทเปิดตัวสมบูรณ์แบบที่งดงามเป็นบุญแก่สายตา
เรียวขาก้าวเดินเข้าไปในคฤหาสน์
ผ่านการคำนับก้มหัวของเหล่าชายชาตรีชุดดำที่ยืนเรียงรายต้อนรับด้วยมาดราวกับถอดแบบมาจากนางพญาซูสีไทเฮา
แต่...เหนือนางพญาย่อมมีจอมนางพญา
เหนือไทเฮาต้องมีไทหวง!!
“ฮายาโตะ!!! แกไปไหนมากลับมาเอาป่านนี้ ไปเที่ยงคืนกลับเที่ยงวัน
นี่ฉันให้แกไปจัดการแบบเงียบๆ เร็วๆ เงียบแล้วก็เร็วน่ะ แกไม่เข้าใจรึไงหะ!”
ใช่แล้ว มีอยู่คนเดียวที่เจิดจรัสบดบังรัศมีความเด่นยามเที่ยงของโกคุเดระ
ฮายาโตะได้ ก็มีเพียงเข้าผู้นี้
เจ้าบ้านตระกูลโกคุเดระที่อายุอานามก็ไม่ใช่จะน้อยแต่ยังคงความสง่างามผ่องแผ้วในชุดจีนตัวยาวสีแดงสดลายมังกรทองคาบแก้วพาดรอบตัวแสดงความองอาจอำนาจเรืองรอง
เรือนผมสีแดงระต้นคอเพรียวระหง
ใบหน้าขึงตึงหงุดหงิดจัดมีรอยสักน่าเกรงขามวาดไปถึงครึ่งหน้า ดวงตาสีเดียวกับเส้นผมจ้องเขม็งมายังร่างบางไฟแทบลุก
เขาคือผู้กำอำนาจสูงสุดของตระกูลโกคุเดระ
ย้ำ!
ว่าสูงที่สุด สูงเสียดฟ้าชนิดที่ว่าทายาทร่างบางผู้เก่งกาจคนนี้ไม่กล้าแหยม
อำนาจบาตรใหญ่ที่พกเต็มกระเป๋าลดฮวบไหลไปเพิ่มบารมีให้อีกฝ่ายจนหมดจนสิ้น!
...โกคุเดระ จี...
“โธ่ อากง ไอ้พวกนั้นที่มันมาแอบสืบเสาะในเขตเรา
หนูก็จัดการมันไปตั้งแต่ตีหนึ่งแล้ว
แต่ก็นึกได้อ่ะว่าเผื่อมันไปล้วงข้อมูลที่บริษัทเอาไปเผยแพร่ให้ไอ้พวกตำรวจ
ก็เลยไปตรวจสอบจนถึงเที่ยง” ร่างบางอธิบายฉะฉาน
แต่ก็ไม่ทำให้อากงสุดที่รักของตนคลายความอารมณ์เสียได้แม้แต่น้อย
ดีไม่ดีย่นไปอีกหลายเท่า ทำให้เจ้าหลานตัวดีรีบปรี่เข้าไปกอดแขนเอาใจ
“กงอย่าอารมณ์เสียน่า นะๆ
เครียดมากๆตีนกาขึ้นนะ”
“ไม่ต้องมาแช่งฉัน!
มัวเอ้อระเหยลอยลมแบบนี้ใช้ได้ที่ไหน งานของแกยังมีอีกเยอะเฟ้ย!” จีสะบัดตัวออกจากมือเล็กที่เกาะแน่นอยู่ตรงต้นแขน
แต่เห็นว่าจะไร้ประโยชน์ เพราะหลานคนงามโกคุเดระ ฮายาโตะคนนี้พอได้ยินคำว่า ‘งาน’ จะ กระปรี้กระเปร่า เป็นบ้าเกินเหตุ
มือบางที่ว่าเบี่ยงหลุดไปแล้วได้เกาะติดหนึบอีกครั้ง คราวนี้เกาะไม่พอ เขย่าด้วย
“อะไรๆ กง งานอะไร
ให้ไปกวาดแก๊งค์ไหนอีกอ่ะ”
“ไม่ได้จะให้ไปกวาด แต่จะให้ไปเก็บ” คำตอบรับกลับมาถึงทำให้ทายาทโกคุเดระขมวดคิ้วเรียวสวย
อากงจีจึงเดินไปหยิบแผ่นกระดาษบางอย่างบนโต๊ะหยกลายหงส์หกปีกมากางพรึ่บตรงหน้าเขา
ดวงหน้าสวยสง่ายื่นเข้าไปใกล้ ก่อนที่ดวงตาสีมรกตจะกวาดซ้ายขวาเริ่มอ่านอย่างคร่าวๆ
สิ่งแรกที่สะดุดตาเห็นจะเป็นรูปที่มีขนาดใหญ่ถึงครึ่งหน้ากระดาษ
รูปกระบี่ยาวสีทองงดงามเลื่อมพรายวางอยู่บนขาตั้งสีดำ
ประดับประดาด้วยมุกสีขาวยวงล้ำค่าตามฝักถึงเจ็ดเม็ด
ตรงด้ามผูกด้วยพู่ไหมสีแดงสห้อยระย้า ยังไม่นับลวดลายสลักเสลาตามฝักซึ่งเก็บลายละเอียดทุกเส้นได้คมอัศจรรย์เป็นรูปหงส์กำลังกางปีกโผผินอย่างสง่างามคลอล้อไข่มุกอีกเจ็ดตัว
แม้ยังไม่ชักกระบี่ออกจากฝัก โกคุเดระ ฮายาโตะก็สัมผัสได้ถึงมนตร์ขลัง
ความมีเสน่ห์ล้ำค่าที่เปล่งประกายแม้เพียงรูปก็สามารถดึงดูดสายตาให้หลงใหล นับว่าเป็นความงดงามของอาวุธชั้นสูงอันดับหนึ่งก็ว่าได้
“เป็นกระบี่ที่สวยมากเลยอ้ะ
อากง...อากงอยากได้มั้ย ส่งหนูไปเอามันมาก็ได้นะกงนะ” เจ้าหลานตัวดีเสนอตัวทั้งๆที่สายตาวิบวับยังจับจ้องกระบี่งามไม่กระพริบ
จนกระทั่งท่านกงจีกระชากกระดาษออกจากสายตานั่นล่ะ ถึงจะยอมมองหน้ารอรับคำตอบได้
“ก็กระบี่เล่มนี้แหล่ะ
ที่ฉันจะให้แกไปเก็บมาจากงานประมูลคืนนี้ ฟังฉันนะฮายาโตะ
งานนี้เราพลาดไม่ได้เด็ดขาด เราต้องได้กระบี่นี่มาครอบครอง ฉันจะจัดเงินสำหรับประมูลให้แกเองไม่ต้องห่วง
เป็นตายร้ายดีแกก็ต้องประมูลมันมาให้ได้ อย่าให้ใครแย่งไป โดยเฉพาะ...”
“ไอ้ตระกูลยามาโมโตะ ตระกูลกลุ่มนักธุรกิจการบันเทิงภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคไร้สาระ
รูปไม่หล่อ พ่อไม่รวย เหล่าอาหมวยไม่เอา
และสุดท้ายไม่เลิศเลอเร้าใจเท่าตระกูลเราใช่มั้ยกง!”
“ใช่!! ไอ้พวกยามาโมโตะนั่นแหล่ะ
ฉันว่างานนี้ไอ้แก่อุเก็ตสึได้ส่งหลานมันไปแน่ๆ ฉันก็เลยต้องส่งแกไปชนมันไง”
มือของผู้นำตระกูลจีตบป้าบลงบนไหล่เล็กๆจนเกือบทรุด
แต่พ่อหลานคนเก่งก็ยังฉีกยิ้มหวาน พร้อมรองรับศักดิ์ศรีและหน้าตาของตระกูลอันแสนหนัก(มาก)ที่ท่านกงของเขาเหนี่ยวมาเต็มแรงเอาไว้บนบ่า....เรื่องคู่แข่งการเงินประมูลไม่มีใครมาเทียบรัศมีของเขาได้หรอก
อะไรก็ตามที่ตระกูลโกคุเดระอยากได้ มันต้องมากองแทบเท้าไม่เร็วก็เร็วมาก!
ส่วนไอ้ตระกูลยามาโมโตะน่ะรึ เฮอะ! จิ๊บจ๊อยเฟ้ย!
“เอ้อ กง หนูถามหน่อยดิ
ทำไมกงอยากได้กระบี่หรูๆนี่จัง มันมีความสำคัญอะไรหรือเปล่า?” ใช่ มันแปลกมากจริงๆที่กระชับนักกระชับหนา ถึงขั้นบอกว่าห้ามพลาดเด็ดขาด
ซ้ำยังทุ่มทุนจัดการกำลังทรัพย์เองอีกต่างหาก
ทั้งๆที่เมื่อก่อนออกจะเค็มทะเลเรียกเฮีย
ผู้นำตระกูลโกคุเดระได้ฟังคำหลานถามแล้วก็ได้ชะงักกึกแล้วนิ่งงันไปจนผิดสังเกต
ก่อนจะค่อยๆหันมาประจันหน้ากับร่างบางอีกครั้ง ดวงตาสีแดงจางจ้องหน้าหลานอย่างจริงจังไม่สั่นไหว
น้ำเสียงทุ้มเย็นอย่างที่นานๆทีได้ยินครั้งเน้นย้ำช้าๆทีละคำ
“แกรู้เอาไว้แต่เพียงว่า
กระบี่เล่มนี้ชื่อปักษามุกดา เป็นของสำคัญต่อตระกูลของเรามาก...แค่นั้นก็พอ”
ทุกถ้อยคำพูดซึมลึกเข้าไปในใจของผู้รับงานไปนำของสำคัญของตระกูล
เพียงแค่ได้ยินชื่อ ในหัวใจของทายาทตระกูลโกคุเดระก็เต้นแรง
ความรู้สึกอบอุ่นคุ้นเคยสมควรแก่การหวงแหนและปกปักษ์รักษาเข้ากอบกุมหัวใจ
ทั้งๆที่เขาเองก็ไม่ใช่พวกนิยมชมชอบของสวยๆงามๆเท่าไรนัก ธุรกิจอัญมณีก็นานๆไปดูที
แต่ไม่รู้ว่าทำไมกับกระบี่เล่มนี้ มันเหมือนสิ่งของสูงค่าสำหรับเขาเหลือเกิน...
ปักษามุกดา...
20:00 PM. โรงแรมหรูชื่อดังกลางกรุงฮ่องกง
หน้าโรงแรมหรูห้าดาวสูงเสียดฟ้าที่ธรรมดาปกติก็จะคับคั่งไปด้วยบุคคลระดับสูงกระเป๋าหนักเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
บัดนี้ยิ่งเป็นเหมือนศูนย์รวมเหล่ากลุ่มนายทุน เจ้าของกิจการชั้นนำ
หรือเหล่าดารานักแสดงมือหนึ่งแห่งโลกมายาก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น พาหนะหรูมูลค่าคันละเหยียบหลายล้านจอดคลาคล่ำแน่นสถานที่จัดเตรียม
และไม่ว่าจะมองไปทางใดก็จะเห็นบุรุษอยู่ในชุดสูทหรือทักซิโด้ดูภูมิฐาน
บนนิ้วสวมแหวนไม่ต่ำกว่าสามวง
ส่วนสตรีเหล่าคุณหนูคุณนายนั้นน่ะหรือ
พวกเจ้าหล่อนอยู่ในชุดราตรียาวที่สั่งตรงมาจากบูติกทั่วยุโรป
บนลำคอและติ่งหูไม่ว่างเว้นจากเครื่องประดับอัญมณีแวววาวพราวพราย
ส่วนจะเก๊จะจริงเหมือนพวกหล่อนจะไม่สน เพราะอยู่ท่ามกลางแสงแชนเดอเลียคริสตัลมันก็ส่องประกายความรวยได้พอๆกัน
ส่วนเหล่าอาซิ้มอาซ้อชาตินิยม พวกเธออวดโฉมอยู่ในชุดกี่เพ้าสีแดงสดแหวกถึงเหนือเข่าอวดเรียวขาขาว
เส้นผมดำสนิทเกล้าตลบขึ้นสูงพร้อมปักปิ่นทองคำ เสียบหวีเพชรกันอย่างงดงาม พร้อมมองกล้องโน้นกล้องนี้ฉีกยิ้มสวยหวานรับแสงแฟลชที่สาดส่องเรือนร่างตนเองอยู่ทุกวินาที
เฟอร์รารี่ F430
Scuderia คันหรูเจ้าเดิมนำขบวนรถยุโรปติดตามอีกราวห้าหกคันแล่นฉิวมาจอดเทียบท่าหน้าโรงแรม
ดวงตาสีมรกตน้ำงามของผู้นั่งอยู่เบาะข้างคนขับเหลือบไปเห็นรถคันหน้าที่จอดก่อนเขาไม่กี่วินาที
BMW Series7 รุ่น750Li สีบลอนด์เงินเป็นเงาวาววับ
เขาจำได้แม่นติดตาเพราะมันคือรถยนต์ส่วนตัวสุดรักสุดหวงของทายาทแห่งตระกูลยามาโมโตะผู้เป็นเจ้าของสโลแกนตกอับผู้นั้นนั่นเอง....
และแล้วริมฝีปากบางแดงเหยียดยิ้มเล็กน้อย หึ...หึ ทำไมน่ะหรือ?
ไม่เคยได้ยินหรือไงว่าคนมาทีหลัง.....เด่นกว่า!!
คนขับรถส่วนตัวค่อยๆเปิดประตูรถ ก่อนจะเดินนำแล้วเปิดประตูห้องจัดเลี้ยงและจัดประมูลออก
พรึ่บ....แอ๊ดดดด...
เป็นเสมือนการเปิดกล่องกำมะหยี่ให้เพชรกะรัตงามฉายแสง
เหล่าบรรดาบุคคลชั้นนำผู้อยู่ข้างในทุกคนเบิกตากว้าง แก้วไวน์ลดลงจากริมฝีปากแล้วหยุดนิ่งทุกอากัปกิริยา
สายตาจับจ้องผู้มาใหม่ตรงประตูทางเข้าไม่กระพริบ กล้องทุกตัวหันขวับเล็งมาทางเขาแล้วรัวแฟลชไม่ยั้ง
แสงสปอร์ตไลท์สามดวงจากทีมงานฉายส่องพรึ่บพรั่บอย่างไม่ต้องบอกไม่ต้องกล่าว!
ร่างโปร่งบางในทักซิโด้สีดำสนิทขับผิวเนื้อให้ยิ่งขาวผ่องกระจ่าง
คิ้วเรียวโค้งโก่งรับกรอบแว่นกันแดดสีดำทึบที่แม้เป็นเวลากลางคืนก็ต้องใส่เสริมเสน่ห์
ริมฝีปากบางสวยหยักยิ้มน้อยๆเป็นเชิงทักทายทุกคน
ก่อนที่นิ้วเรียวจะเกี่ยวแว่นตาดำออกจากดั้งจมูกโด่งรั้นช้าๆร่ำไร
เรือนผมดุจเส้นไหมชั้นเอกสะบัดพลิ้ว ดวงตาสีเขียวคู่สวยน่าหลงใหลมองทอดไปทั่วงานราวกับร่ายมนตร์สะกด
เขาเงยใบหน้างามสง่าขึ้นเล็กน้อย แล้วพร้อมสดับรับฟังสำเนียงเสียง........
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดด ยินดีต้อนรับค่ะ คุณหนูฮายาโตะ!!”
พร้อมเพรียงไพเราะเสนาะโสตสมบูรณ์แบบ...
ทุกๆ งานต้องเป็นแบบนี้ประจำ
เมื่อใดที่โกคุเดระ ฮายาโตะบุคคลฟินาเล่ของงานปรากฏตัว
เขาจะตราตรึงทุกประสาทสัมผัสและจิตวิญญาณของผู้มอง
แม้ว่าบนตัวจะไม่มีเครื่องประดับมีค่าอะไรมากมาย
เครื่องแต่งตัวเป็นไปตามสุภาพชนพึงมีไม่ได้เลิศเลอ
แต่คนๆนี้กลับเฉิดฉายสง่างามยิ่งกว่าบุรุษและสตรีใด
ผู้หญิงคนไหนที่เห็นเขาเป็นต้องเคลิ้ม หน้าแดงเป็นลูกตำลึงสุก
ส่วนผู้ชายก็ไม่แคล้วหลงใหลไปกับความงามสูงส่งมองด้วยสายตาหยาดเยิ้มปานจะกลืนกินเข้าไปทั้งตัว
เป็นไง...บอกแล้วว่าเด่น!
“โกคุเดระคุง เด่นอีกแล้วนะ”
พลันก็มีเด็กหนุ่มร่างเล็กผมฟูสีน้ำตาลไหม้เดินเข้ามาทักทาย
ยิ่งทำให้บริเวณตรงนั้นเป็นที่จับตามองมากขึ้น
ช่างถ่ายรูปบางคนรัวชัตเตอร์จนมือแทบหงิก ก็คนๆนี้คือ ซาวาดะ สึนะโยชิ ทายาทคนปัจจุบันของซาวาดะกรุ๊ป
ผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และโรบอทรายใหญ่ที่สุดในเกาะฮ่องกง ซ้ำเบื้องหลังยังเป็นผู้กำกุญแจสำคัญเปิดคลังอาวุธยุทโธปกรณ์ล้ำสมัยของวงการมืดซึ่งมีตระกูลโกคุเดระนั้นเป็นลูกค้ารายใหญ่
โกคุเดระยิ้มให้เพื่อนสนิทและพันธมิตรการค้าอันดับหนึ่งซึ่งตัวเขาเองให้ความเคารพและเกรงใจมาแต่ไหนแต่ไร
“สวัสดีครับ คุณซาวาดะ
ยินดีที่ได้พบในงานประมูลแบบนี้ครับ”
“เปล่าหรอกๆ” สึนะโยชิส่ายหน้า
“ฉันไม่ได้มาประมูลหรอกนะ แค่มาพบปะสังสรรค์กับพวกผู้ใหญ่ตามคำสั่งเตี่ย”
แต่แล้วริมฝีปากบางก็หุบยิ้มเปลี่ยนแปลงเป็นสีหน้าเครียดจริงจัง
ดวงตาสีน้ำตาลกลมโตกลอกไปมารอบข้าง ก่อนจะเข้ากระซิบเบาๆที่หูเพื่อนรัก
“แล้วให้มาสังเกตการณ์คู่แข่งรายใหม่ที่เปิดตัวมาแรงเมื่อไม่นานมานี้ด้วย”
“ฮะๆ
เหนื่อยหน่อยนะครับ”
อา...ว่าแล้วมั้ยล่ะ...สมกับเป็นทายาทตระกูลมาเฟีย
มีเบื้องหน้าเบื้องหลังที่แตกต่างกันราวฟ้ากับเหวจริงๆ น่าเห็นใจคนที่ประสบชะตาเดียวกันจัง...
“แล้วมางานนี้ โกคุเดระคุงเล็งอะไรไว้อ่ะ
โห....เอาจริงนะเนี่ย เตรียมเงินมาเพียบเชียว”
ดวงตาสีน้ำตาลเบิกโตเมื่อเห็นกระเป๋าเซฟสีเงินที่เหล่าผู้ติดตามแต่ละคนของเขาถือเอาไว้
มือบางลูบหัวตัวเองอย่างปลงหนัก แล้วยิ้มแห้งๆตอบอีกฝ่าย
“ก็อากงผมแกกำชับมาน่ะครับว่าต้องมาประมูลกระบี่ปักษามุกดาให้ได้
กงแกเลยจัดหนักมาแบบนี้แหล่ะ มีเท่าไหร่ผมยังไม่รู้เลย แหะๆ”
“ปักษามุกดาเหรอ?...อากงจียังตาแหลมเสมอเลยนะ งานนี้น่ะกว่าแปดสิบเปอร์เซ็นต์ของผู้เข้าร่วมประมูลก็จ้องเก็บปักษามุกดากันทั้งนั้นแหล่ะ
สู้เขาแล้วกันนะ โกคุเดระคุง”
“ขอบคุณครับ งานนี้ผมไม่ยอมแพ้ใครเด็ดขาด
โดยเฉพาะไอ้ตระกูล...!”
“ตระกูลยามาโมโตะของผมใช่มั้ยครับ
คุณหนูโกคุเดระ” ทันใดนั้นเสียงของทายาทโกคุเดระคนเก่งก็กลืนหายลงคอเมื่อเห็นบุคคลที่มาใหม่ยืนเด่นเป็นสง่าอยู่ตรงประตูทางเข้าด้านตรงข้าม
เขามีเรือนผมสีดำสนิทถูกเซตให้ชี้ตั้งด้วยเยลกระปุกละหลายพัน
คิ้วหนาเข้มรับกับดวงตาคมกริบสีน้ำตาลเปลือกไม้ จมูกโด่งเป็นสัน
ริมฝีปากหยักได้รูปกำลังกระตุกยิ้มเพื่อกวนประสาทเขาโดยเฉพาะ ชุดสูทสีดำและเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินยิ่งเสริมให้ร่างสูงดูดีมาดแมนสมชายชาตรี
ใบหน้าหล่อเหลาเปื้อนยิ้มหวานเบือนไปหาเหล่ากลุ่มบุคคลที่พุ่งสายตาหันขวับไปมองเหมือนจะหว่านเสน่ห์ใส่อย่างน่าหมั่นไส้
เสียงวิพากษ์วิจารณ์ชื่นชมเริ่มฮือฮาเซ็งแซ่แล้วเหล่าตากล้องที่ได้เหยื่อใหม่ก็พากันวิ่งกรูไปสาดแสงแฟลชในบัดดล
ไม่พอๆ นักข่าวสาวเล็ก หนุ่มใหญ่ยังถือไมโครโฟนวิ่งฮือเข้าไปเบียดจ่อที่ปากของมันไม่ต่ำกว่าสิบตัว
มันคนนี้แหล่ะ!! มันคนนี้แหล่ะที่ชื่อ ยามาโมโตะ ทาเคชิ!!!
รูปมันไม่หล่อ!
“แหม...ไม่คิดเลยนะคะว่าท่านใหญ่อาซาริ
อุเก็ตสึ จะปล่อยให้หลานชายหัวแก้วหัวแหวนมางานประมูลเป็นเป้าสายตาขนาดนี้ ทั้งสืบทอดกิจการใหญ่ ทั้งแสดงละคร ถ่ายโฆษณา
เดินแบบ หล่อชนิดเทวดาส่งมาเกิดจริ๊งๆ”
พ่อมันไม่รวย!
“เดี๊ยนได้ข่าวว่าตระกูลยามาโมโตะบริจาคให้กับงานประมูลนี้เพื่อการกุศลถึงแปดสิบล้านเหรียญเลยนะเคอะ! แต่ว่าคุณชายทาเคชิน่ะ ยังจะเข้าร่วมประมูลสินค้าอีกหลายรายการ ฮิฮิ
รวยขนาดนั้นคงไม่สะทกสะท้านหรอกเค่อะ”
เหล่าอาหมวยไม่เอา!
“อีชั้นก็สืบทราบอีกค่ะว่าตอนนี้คุณชายแกยังโสดสนิทจริงๆไม่ติงนัง
เพิ่งเลิกกับดาราสาวหลันเหมย กิ๊กคนที่ห้าสิบแปดไปหมาดๆค่ะคุณพี่ขา ฮุฮุ ก็ดีนะคะ
คุณลูกเหม่ยฉีของอีชั้นจะได้เสียบแทน ฮุๆๆๆ”
เอิ่ม...
พอเถอะ! อย่าให้ต่อถึงข้อสุดท้ายเลย
แค่นี้เขาก็อยากไปกระชากหน้าหล่อๆของหมอนั่นมาโขกพื้นห้องจัดเลี้ยงอยู่แล้ว
คนบ้าอะไรน่าฆ่าโคตรๆ โผล่มาทีหลังแย่งซีนยังไม่พอ
แล้วนี่มันคิดจะมาประมูลแย่งของๆโกคุเดระ ฮายาโตะผู้เลิศเลอเพอร์เฟคคนนี้อีกล่ะสิ
เชอะ! ฝันไปเถอะเว้ย!! ถ้ามาแย่งกระบี่ปักษามุกดาจริงๆแล้วล่ะก็เขาเป่ามันดับกลางงานแน่
ไม่สนมันหรอกไอ้ภาพพจน์คุณหนูตระกูลไฮโซชื่อดัง แท้จริงเขาเป็นทายาทแก๊งค์มาเฟียผู้เก่งกาจไม่มีใครกล้าหือต่างหาก
ถึงแม้ว่าเบื้องหลังคุณชายผู้ดีตีนแดงของอีกฝ่าย
จะมีอิทธิพลทางโลกมืดอย่างล้นพ้นไม่แพ้เขาเหมือนกันก็เถอะ
แต่ว่าอีกคนที่เปล่งรัศมีความดูดีมีชาติตระกูลไม่แพ้กันที่ยืนอยู่ข้างๆยามาโมโตะนั่นไม่คุ้นตาคุณหนูโกคุเดระเลยแม้แต่นิด
ดวงหน้ามนหล่อเหลาสะอาดสะอ้านมีเสน่ห์ เรือนผมสีน้ำเงินไพลินยาวถูกมัดรวบเอาไว้เรียบร้อย
ดวงตาที่ฉายแววเจ้าเล่ห์คู่นั้นมีสองสีที่ตัดกัน ข้างหนึ่งสีแดงฉาน
ส่วนอีกข้างสีน้ำเงินงดงามเหมือนเรือนผม รูปร่างสะโอดสะองของเขาอยู่ในชุดทักซิโด้สีขาวเรียบกริบไม่มีรอยยับแม้เท่าเส้นขนแมว
แต่จะเป็นใครก็แล้วแต่ คุณหนูโกคุเดระขอหมายหัวเอาไว้ว่าน่าหมั่นไส้ทันทีเพราะมันดันเดินมากับไอ้คุณชายยามาโมโตะ
ทาเคชิแล้วมาหยุดอยู่ตรงหน้าเขากับเพื่อนร่างเล็ก แถมยังมองด้วยสายตาหยอกล้ออย่างเสียมารยาท
เปรี๊ยะ!
ครืนน...
นับว่าเป็นปรากฏการณ์ชวนระทึกใจเต้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
เมื่อเด็กหนุ่มสี่คนทายาทนักธุรกิจชั้นนำมายืนประจันหน้ากันกลางงานประมูล
สงครามจิตวิทยาทางสายตาย่อมๆได้เริ่มขึ้น แววตาของแต่ละคนสบประสานเป็นประกายแล่นเปรี๊ยะปร๊ะ
บรรยากาศเร่าร้อนค่อยๆคืบคลานห้องแอร์เย็นฉ่ำอย่างช้าๆ
“ไม่คิดว่าจะได้เจอกันที่นี่นะ โรคุโด
มุคุโร่” สึนะโยชิทัก ดวงหน้าน่ารักตอนนี้แต่งแต้มด้วยรอยยิ้มที่ปั้นแต่งมาอย่างชั้นเซียน
ซึ่งแม้ว่าโกคุเดระจะสงสัยว่าเพื่อนของเขาไปรู้จักมักคุ้นกับหมอนี่ตั้งแต่เมื่อไหร่แต่ก็ยังไม่กล้าถาม
เพราะเจ้าคนที่ชื่อโรคุโด มุคุโร่ก็ใช่เล่น
กล้าตีสีหน้ายิ้มพรายมองทายาทซาวาดะกรุ๊ปกลับอย่างไม่เกรงกลัวซะด้วย
“ครับ...บังเอิญจริงๆด้วย
อืม...แบบนี้ต้องโทษอะไรดีล่ะครับ พรหมลิขิต ฮวงจุ้ย
หรือต้องโทษความตั้งใจของสึนะโยชิคุงกันแน่น้า...”
โอวววว สุดยอดมาก
ถ้ามีคะแนนความกล้าเอาเต็มไปเลย!
“แล้วคุณหนูโกคุเดระที่มาปรากฏกายในค่ำคืนนี้
ต้องการอะไรกลับไปล่ะครับ” เสียงนุ่มทุ้มของคนเบื้องหน้าอีกคนทำให้โกคุเดระถลึงดวงตามองกลับ
ดวงหน้าคมคายกำลังแย้มยิ้มให้เขาด้วยไมตรีจิตเต็มเปี่ยม แต่ขอโทษที
ไม่ได้ต้องการสักนิด!
“ฉันจะมาเอาอะไรมันก็เรื่องของฉัน
ไม่เกี่ยวกับแก แต่จำใส่กะโหลกกลวงๆของแกเอาไว้อย่างเดียวว่า แก!แพ้!ฉัน!แน่!...ฮึ! ไปครับ คุณซาวาดะ”
คุณหนูโกคุเดระคว้าข้อมือเพื่อนรักแล้วสะบัดหน้าเดินหนีหายไปนั่งรอเตรียมประมูลทันที
โดยมีดวงตาสองคู่มองตามไปอย่างยิ้มๆ
มีอะไรบ้างที่จะหนีรอดพ้นสายตาของสองสหายหนุ่มผู้หล่อเหลาไม่มีใครเทียม
ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่มองเห็น หรือมองไม่เห็นก็ตาม
“คึหึหึหึ
งานนี้น่าสนุกนะครับยามาโมโตะคุง มีคนมาตามจับตามองจริงๆซะด้วย”
“ก็ธุรกิจนายดันเติบโตเกินหน้าเกินตาคุณหนูซาวาดะเขาซะขนาดนั้น
เขาก็ต้องเดือดร้อนเป็นธรรมดา แต่ที่ผมสงสัยเป็นใคร หรืออะไรมากกว่าที่ล่อหลอกผีเสื้อราตรีผู้งดงามคนนั้นให้ออกมาบินโฉบล้อแสงนีออนยามค่ำคืนแบบนี้”
“โอ๊ะ โอ
ไม่น่าจะใช่แสงนีออนหรอกนะครับ...”
“ใช่...”
ยามาโมโตะเห็นด้วยกับความคิดหลักแหลมของเพื่อนรักที่ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็มองทะลุปรุโปร่ง
“น่าจะเป็นแสงสะท้อนพรายระยับจากผิวสลักสีทอง และไข่มุกงามเจ็ดเม็ด....ปักษามุกดา”
.
.
.
TBC...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น