หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2557

Fic KHR [8059] My wind...our wind : Chapter27

Fic KHR [8059]
My wind...our wind
Dark Drama  Action
NC-17

คำเตือน : เนื้อหาในเอนทรีนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชายหากท่านใดไม่ต้องการรับรู้หรือรับไม่ได้ กรุณาปิดหน้าต่างนี้ไปค่ะ



Chapter 27 วินด์เคจ...กรงจับวายุ



“รายได้จากกระสุนปืน แยกมาเลย เอ็มสิบหก วอเทอร์พีพีอาร์  บาเร็ตต้า อาร์ก้า ไรเฟิล แมชชีน”


“ครับๆ”


“ต่อไปอาวุธระยะกลาง...ระเบิด เรียงมาตั้งแต่ไดนาไมต์ สเลอร์รี อีมัลชัน  ANFO


“ครับ ได้แล้วครับ”


“เอากำไรมาด้วยสิเฟ้ย! อย่างนี้ฉันจะเช็กได้มั้ย หา!!


“คร้าบบบ”


โหด... เข้มงวด...ละเอียด...แม้แต่ตัวเลขทศนิยมหลักเดียวก็ไม่ให้ตกหล่น


เขากลับมาอย่างแน่นอนแล้วล่ะ


ร่างโปร่งบางเรือนผมสีเงินยวงในชุดสูทสีดำดูสง่างามกำลังนั่งเรียงแฟ้มเอกสารที่ลูกน้องขนมาเต็มอ้อมแขนประมาณสี่ห้ารอบ ตอนนี้ห้องทำงานของวายุแห่งวองโกเล่เกลื่อนไปด้วยแฟ้มสีดำที่แต่ละเล่มหน้าพอทุบหัวหมาให้สลบไปสามวัน พอออกจากโรงพยาบาลได้ มือขวาแห่งวองโกเล่ก็ไว้ลายทันที ทำงานชนิดที่ว่าการนอนโรงพยาบาลเมื่อสองวันก่อนเป็นเพียงเรื่องโกหก แน่นอน เพราะคนๆนี้ห่างเหินไปจากงานเอกสารของวองโกเล่ถึงเดือนครึ่ง พอเห็นแฟ้มก็ยิ้มกริ่มเอามือลูบมันราวกับคิดถึงมานาน


เล่นซะลูกน้องอิจฉาแฟ้มไปเป็นแถบๆ!


ถึงจะรู้มาบ้างว่า มุคุโร่ได้ช่วยเช็กไปให้บ้างแล้ว แต่ก็ยังมีอีกหลายฉบับที่ต้องขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของมือขวาแห่งวองโกเล่เท่านั้น  พอพ่อสายหมอกคนเก่งรู้ว่ามือขวาออกจากโรงพยาบาลก็รีบเอาแฟ้มขนใส่ปอร์เช่ประจำตำแหน่งมาถวายให้เขาถึงตึก


ต้องขอบคุณมันอีกคน...


“เหอ? ปาสติสวิลลา แฟมิลี่ ทำไมกำไรของไอ้แก๊งค์นี้มันมากเกินควรฟะ” มือขวาของวองโกเล่ขมวดคิ้วเป็นปมชักเริ่มสงสัยเมื่อเห็นใบรายการรายได้ของแฟมิลี่คู่แข่ง ทำให้เลขาประจำตัวเลยรีบรุดเข้ามาดู


“ดูสิมันส่งออกอาวุธน้อยกว่าเรา แต่กำไรของมันเกินเราไปถึงยี่สิบเปอร์เซ็นต์ อย่างนี้ถ้ามาหารเฉลี่ยเป็นขายปลีกแล้ว กำไรมันสูงเกินที่ตกลงกันไว้เมื่อครึ่งปีก่อนชัดๆ!


“อาจเป็นการเล่นไม่ซื่อนะครับท่านโกคุเดระ แต่เรื่องนี้เรายังไม่มีหลักฐานแน่ชัด เอกสารชุดนี้เป็นเอกสารของทางเรา คิดว่าถ้าใช้เอาไปอ้างคงได้ถูกฟ้องกลับว่าปรักปรำแน่นอนครับ” เลขาชี้แจงพร้อมเหตุผล ยิ่งทำให้ร่างโปร่งบางเครียดหนักขบฟันกรอด คำสบถพรืดดังจากริมฝีปาก


“ลอบกัด! นี่มันคิดตุกติกขนาดนี้เชียวเรอะ เท่าที่ฉันจำได้ไอ้ปาสติสวิลลาก็โกงกำไรจากเราไปครั้งนึงแล้ว แต่ตอนนั้นรุ่นที่สิบบอกว่าให้ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นสักครั้ง แต่ครั้งนี้ดูท่าว่าจะปล่อยไปไม่ได้!”


เพิ่งกลับมาไม่เท่าไหร่ก็มีงานซะแล้ว ฉันนี่ถูกโฉลกกับงานพวกนี้หรือยังไงนะ


แล้วจะทำยังไงต่อไปครับ ดูท่าปาสติสวิลลาจะระวังตัวมากขึ้น เพราะวองโกเล่คงจะรู้ตัวแล้วแน่นอน


ฉันจะเอาข้อมูลนี้ขึ้นเสนอรุ่นที่สิบ ส่วนแกไปเรียกผู้พิทักษ์ทั้งหมดและหัวหน้าหน่วยที่เกี่ยวข้องกับงานธุรกิจการค้ามา อีกครึ่งชั่วโมงเตรียมประชุม หันไปสั่งการเรียบร้อยอย่างขึงขัง เลขาแห่งตึกวายุโค้งตัวรับบัญชาแล้วผละออกไปจากห้อง ทิ้งให้มือขวาพับเอกสารแล้วถือไว้ในอ้อมแขน นึกถอนหายใจเล็กน้อย ที่ต้องเดินจากตึกวายุไปถึงหอบัญชาการใหญ่เพราะระยะทางของเขามันไกลที่สุด ทั้งไกล ทั้งน่าเบื่อ



...ก็เพียงแต่หวังว่าจะไม่มีคนมาเดินรับ และชวนคุยจนสายเหมือนทุกครั้ง...






หอบัญชาการใหญ่วองโกเล่แฟมิลี่ อีกสามสิบนาทีต่อมา


เอกสารปึกใหญ่วางเรียงรายบนโต๊ะ ตามตำแหน่งของผู้บริหารระดับสูงที่เรียงตั้งแต่หัวโต๊ะจนถึงท้ายโต๊ะ นภาแห่งวองโกเล่    ซาวาดะ สึนะโยชินั่งอยู่ในตำแหน่งสูงสุดพลางกวาดตามองผู้เข้าประชุม ข้างขวาของเขาคือมือขวาเจ้าของผมสีเงินที่เป็นผู้เรียกการประชุม ทางซ้ายที่นั่งตรงข้ามกับมือขวาคือผู้พิทักษ์พิรุณผมสีดำสนิทในชุดสูทสีไม่ต่างจากเรือนผม และหลังจากนั้นจึงเป็นผู้พิทักษ์คนอื่นๆ และบุคคลากรชั้นสูงของแฟมิลี่


จะว่าไปนภาคิดถึงคนที่นั่งประกบซ้ายขวากันมากที่สุด จำได้ว่าการประชุมครั้งล่าสุดสองตำแหน่งนี้ว่างเอาไว้ พอมีคนมานั่งเก้าอี้สองตัวนี้แล้วก็อดยินดีไม่ได้


ไม่บอกก็คงรู้ว่าที่มานั่งหน้าสลอนเต็มโต๊ะไม่ขาดไปแม้แต่คนเดียว ก็เพราะมือขวาแห่งวองโกเล่เกิดแผลงฤทธิ์ขึ้นมา


จากรายงานครับรุ่นที่สิบ ปาสติสวิลลา แฟมิลี่ เกิดการเล่นไม่ซื่อ กำไรสูงจากคู่แข่งการค้ารายอื่นที่ตกลงกันไว้เมื่อครึ่งปีก่อน ถึงอย่างนี้จะดูไม่ชัดก็จริง แต่ถ้ามาเฉลี่ยเป็นขายปลีกแล้ว แม้แต่ปืนหนึ่งกระบอกกำไรของมันมากกว่าวองโกเล่ถึงสองเท่า เรื่องนี้ผมเคยเสนอรุ่นที่สิบไปไม่นานมานี้ แต่ว่าครั้งนี้ผมคิดว่าไม่ควรนิ่งเฉยอีกต่อไป


น้ำเสียงของวายุคนเดิมแห่งวองโกเล่กล่าวรายงานต่อที่ประชุม แม้จะเป็นน้ำเสียงราบเรียบสุภาพเพราะอยู่ต่อหน้าสาธารณะแต่ก็แฝงไปด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว ดวงเนตรสีมรกตวาววับอย่างเอาจริง


ยกเว้นพวกผู้พิทักษ์แล้ว เล่นเอาเหล่าลูกน้องเสียวสันหลังกันไปเป็นขบวน


อืม...เรื่องนี้คิดว่ายังไงครับทุกคน ปาสติสวิลลาเป็นคู่แข่งทางการค้ากับเรามานาน ที่ผ่านมาไม่เคยฉ้อโกงและรักษาสัญญาอย่างดี เพิ่งมามีข่าวฉาวก็เร็วๆนี้นะครับ สึนะโยชิให้ข้อมูลเพิ่มเติม นั่นทำให้สายหมอกที่นั่งเงียบอยู่ขยับยิ้ม ดวงหน้าของจอมขมังเวทย์แห่งวองโกเล่ดูลึกลับทุกทีเวลาคิดอะไร(ไม่ค่อยดี)ออก


ผมว่าควรจะให้โกคุเดระคุงไปเจรจาตักเตือนก่อน ถ้าฝ่ายโน้นยังคงดื้อด้านค่อยลงมาตรการขั้นเด็ดขาด



เบาไป!” วายุค้านเสียงห้วนทันควันจนคนอื่นสะดุ้ง ทำแบบนี้ควรตัดหางปล่อยวัดไปได้แล้ว อย่าลืมนะว่านี่มันครั้งที่สอง วองโกเล่ไม่เคยให้โอกาสพวกตีสองหน้ากลับใจมากขนาดนั้น


บรรยากาศของห้องประชุมเคร่งขึ้นในเสี้ยวนาทีที่มือขวาไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่สายหมอกเสนอความคิด แต่มุคุโร่ก็คือมุคุโร่ ยั่วโทสะคนอื่นด้วยวาจาคือเรื่องถนัดเหนืออื่นใด


การทำอะไรต้องมีขั้นมีตอนนะครับ โกคุเดระคุง ครั้งก่อนเราปล่อยไปเฉยๆ แต่ครั้งนี้กลับจะให้ตัดออกจากเครือการค้ามันก็ปุบปับไปหน่อย วองโกเล่ไม่ชอบพวกตีสองหน้าก็จริง แต่ก็ไม่ใช่พวกที่ไร้มนุษยธรรมไม่เห็นแก่หน้าคนอื่น...ถูกมั้ยครับ


คำกล่าวเชือดนิ่มๆของสายหมอกกลางที่ประชุมทำให้วายุทวีความหงุดหงิด จะพ่นคำด่าก็คงไม่ได้ ได้แต่สาปแช่งมันอยู่ในใจอย่างนั้น ก่อนจะเบือนหน้ากลับมาทางนภาเพื่อถามคำตัดสิน แต่ตอนนั้นเองที่สายตาปรายมองคนที่นั่งตรงข้ามอย่างไม่ได้ตั้งใจ


ดวงตา...คู่นั้น


ดวงตาสีน้ำตาลเข้มนั้นจ้องเขาอยู่ เป็นดวงตาที่ดูฝืนยิ้มอย่างเห็นได้ชัด ความจริงเขารู้สึกว่าถูกจ้องมาตั้งนานแล้ว พอเห็นตาหมอนี่ชวนให้คิดถึงคำสารภาพบาปที่แสนเจ็บปวด แน่นอนว่าตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาลเขาพยายามหลบหน้าพิรุณตลอด ไม่ได้คุยสักคำ ตอนนี้ก็เช่นกัน


เพียงเสี้ยววินาทีเนตรสีมรกตกวาดผ่านคนตรงหน้าราวกับว่าเป็นเพียงอากาศธาตุ หันไปหาบอสของตัวเองเต็มสองตา


เอายังไงดีครับรุ่นที่สิบ


อ่า...อื้ม ฉันว่าวิธีของมุคุโร่ก็ดีนะโกคุเดระคุง สงสัยต้องรบกวนนายไปเจรจากับทางโน้น ผลเป็นยังไงคงจะได้คุยกันอีกที...ได้หรือเปล่า?” คำขอร้องนุ่มนวลของนภาเล่นเอามือขวาเคลิ้ม ในใจเผลอเห็นดีเห็นงามกับความคิดของสายหมอกไปเต็มเปา ร่างโปร่งบางยืนขึ้นตอบรับอย่างแข็งขันให้สมกับมือขวาแห่งวองโกเล่ค้ำคอที่เจ้าตัวก็พยายามกลืนมันลงไปอย่างทุกเมื่อเชื่อวัน


ได้เลยครับ วางใจเถอะครับ ท่านรุ่นที่สิบ


ขอบใจนะ แล้วจะเอาผู้ช่วยไปหรือเปล่า เอ้อ...ยามาโมโตะ สิ้นสุดเสียงเรียก พิรุณแห่งวองโกเล่ก็สบตานภาขวับเหมือนคนสัปหงกแล้วโดนเรียก  แต่ไม่ทันที่จะเอ่ยปากอะไรออกมา มือขวาคนเก่งก็ชิงตัดหน้าเสียก่อน เป็นคำตอบรับที่พิรุณอยากจะยกมือขึ้นมาปิดหูเพราะไม่อยากจะฟัง...


ไม่จำเป็นครับ...ไม่จำเป็นแม้แต่นิด


ไม่จำเป็น...หรอ


พิรุณหลุบดวงตาต่ำนึกปลงในคำปฏิเสธ แต่ถึงกระนั้นยังไม่เจ็บเท่ากับดวงตาที่ตวัดมองมาอย่างเย็นชา น้ำเสียงราบเรียบอย่างที่ไม่เคยใช้มาก่อนตั้งแต่รู้จักคนๆนี้


ตะ แต่ว่า มันอันตรายนะ ฉันให้ยามาโมโตะตามไปดีกว่ามั้ย


ไม่เป็นไรครับ เราแค่ไปเจรจาเท่านั้นเอง อีกอย่างผู้พิทักษ์พิรุณงานคงจะพอตัวอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องมาช่วยผมแต่อย่างใดคำเหน็บแนมแทงเข้าไปในหัวใจของผู้ที่ถูกกล่าวถึง ทำให้สึนะโยชิพูดต่อไม่ได้ ทำได้เพียงแต่หันมาส่งสายตาขอโทษพิรุณเท่านั้น คำพูดเพียงไม่กี่ประโยค แต่มันทำให้ความเสียใจแล่นเป็นริ้วๆทั่วร่างกายแม้ใบหน้ายังคงเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม


แม้แต่ชื่อ...นายยังไม่เรียก


แม้แต่หน้า...นายยังไม่มอง


ฉันไม่จำเป็นที่ต้องอยู่เคียงข้างนายงั้นเหรอ...โกคุเดระ


การประชุมจบลง สรุปที่วายุต้องไปเจรจากับปาสติสวิลลาแฟมิลี่ เจ้าตัวเลยเดินออกจากห้องประชุมก่อนใครทั้งหมด ตามด้วยพิรุณที่ลุกพรืดเดินตามไปติดๆ และลูกน้องที่ทยอยเดินออกไป


สุดท้ายก็เหลือเพียงแต่เหล่าผู้พิทักษ์แห่งวองโกเล่ ที่ตอนนี้สายหมอกยังยิ้มไม่หุบ ไม่ต้องเดาให้เปลืองสมองมากนัก คนๆนี้มีอะไรในกอไผ่แน่นอน


เล่นอะไรของแก...คิดเรอะว่ามันจะใช้ได้ผล เนตรสีดำขลับของเมฆาเหลือบมองเจ้าคนแผนมากอย่างรู้ทัน ยิ่งทำให้สายหมอกหัวเราะออกมาเบาๆ


คึหึหึหึ เห็นท่าทางยโสของสายลมที่แสนซนของพวกเราแล้ว มันอดไม่ไหวนี่ครับ นับว่าไม่เสียแรงที่ดูแลเรื่องเอกสารของ โกคุเดระคุงตอนที่เขาป่วย


ให้มันน้อยๆหน่อยโรคุโด ถ้าไอ้เจ้าหัวปลาหมึกรู้ มันตามไปเผาแกถึงตึกแน่ อรุณปรามอย่างขยาด แต่ใบหน้ายิ้มๆนั้นก็เป็นเชิงว่าเขาไม่ได้คิดจริงจัง ก็มันน่าสนุกไม่เลวนี่นาแผนของหมอนี่น่ะ ตอนแรกก็ไม่รู้ แต่พอมาอ่านข้อมูลของไอ้ปาสติสวิลลาแฟมิลี่อะไรนี่ดูก็ถึงบางอ้อ


ตกลงว่าทุกคนมีอะไรกันหรอ...ทำไมดูร่าเริงขนาดนั้น นภาผู้ที่ไม่รู้เรื่องอะไรถามหนาตาเหรอหรา ส่วนเด็กๆอย่างอัสนีก็พยักหน้าเห็นด้วย แผนเผินอะไรกัน ทำไมเขาไม่เห็นรู้เรื่อง เวลามีเรื่องลับลมคมนัยทีไรต้องเป็นพวกตามไม่ทันสิน่า


สายหมอกแห่งวองโกเล่หันหน้ามาหานภาแล้วขยับยิ้มบางแล้วส่งประวัติของบอสแห่งปาสติสวิลลาแฟมิลี่ให้ดู ก่อนจะอธิบาย


บอสของปาสติสวิลลาชื่อ รีอัลโต ครับ แต่ส่วนใหญ่คนในวงการมาเฟียจะรู้จักในอีกชื่อหนึ่งที่เป็นฉายาของเขามากกว่า


ฉายา?” นภาทวนเบาๆ โรคุโด มุคุโร่พยักหน้ารับ ก่อนที่ดวงตาสองสีประประกายวาว รอยยิ้มเจ้าเล่ห์กรีดบนใบหน้าอย่างปิดไม่มิด ทำให้ห้องทั้งห้องหนาวยะเยือก



วินด์เคจ ( Wind  Cage)







โกคุเดระ...เดี๋ยวสิ


...


โกคุเดระ


ไม่หยุด เสียงที่ไล่หลังมายังดังไม่หยุด และวายุก็เดินสาวเท้าแบบไม่หยุดเหมือนกัน มันเดินตามเขามาตั้งแต่ออกจากห้องประชุมแล้ว ตอนนี้ยังไม่หยุดตาม คิดจะเดินตามเขาไปถึงตึกวายุเลยหรือไง ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ต่อให้เรียกจนคอแหบคอแห้ง ก็อย่าคิดว่าคนอย่างโกคุเดระ ฮายาโตะจะใจอ่อนหันกลับไปมอง


โกคุเดระ ถ้านายไม่หยุดเดิน ฉันก็จะไม่หยุดตามหรอกนะ  ถึงนายจะเข้าห้องฉันก็จะเข้ากับนายด้วย


ตื๊อชิบ!


วายุสบถในใจ และคิดอยู่แล้วว่ามันเอาจริง เจ้าหมอนี่พูดแล้วทำจริงเขารู้ดี มีหวังได้ตามเขาไปจนถึงตึกวายุแน่ๆ แต่ทำไมก็ไม่รู้คนข้างหลังยังยิ้มได้  มันเรียกเขามาตลอดทางเดิน ไม่หันไปมองก็รู้ น้ำเสียงนั้นยังร่าเริงไม่เปลี่ยนแม้จะปนหอบเพราะรีบสาวเท้าก้าวให้ทันตามเขา


ร่างโปร่งบางหยุดเดิน แต่ไม่ได้หันกลับไปมอง ไม่ได้พูดอะไร แต่ก็พร้อมที่จะเดินต่อถ้าหากร่างสูงๆของพิรุณก้าวเข้ามาใกล้เขาอีกเพียงก้าวเดียว


เฮ้อ...ขอบใจนะ นายเดินเร็วจนฉันจะตามไม่ทันอยู่แล้ว นายจะหนีฉันไปไหน ฉันก็จะตามนายไปทุกที่นั่นแหล่ะ  ไม่ต้องหนีให้เหนื่อยหรอก


บางทีเขาควรจะเดินต่อ...


เท้างามๆของวายุกำลังจะยกย่าง ทำให้เจ้าของเรือนผมสีดำที่อยู่ข้างหลังต้องรีบยกมือห้ามแสดงอาการยอมแพ้


เฮ้ย! เดี๋ยวๆ โอเคๆ อย่าเพิ่งไปไหนนะ คือที่ฉันตามนายมานี่ฉันอยากจะขอตามนายไปเจรจากับปาสติสวิลลา อย่างน้อยๆขอแค่ฉันเป็นกำลังสมทบหากเกิดอะไรไม่ดีขึ้น...ได้มั้ย น้ำเสียงอ้อนวอนของพิรุณ บั่นทอนเกราะแข็งๆของวายุได้ไม่น้อย น้ำเสียงที่ห่วงหาอาลัยนั่นไม่ต่างจากตอนที่อยู่โรงพยาบาล แต่ทว่ากำแพงหัวใจมันยังคงสูงเกินไปที่จะให้พิรุณปีนข้าม


ไม่ต้อง กำลังเสริมของตึกวายุมีมากพอ ไม่จำเป็นต้องให้ทางพิรุณไปสมทบ


แต่หมอนั่นคือวินด์เคจนะ!” นั่นแหล่ะ เหตุผลหลักที่อยากตามไป เผยออกมาจนได้ ฉันรู้ว่านายเอาตัวรอดได้ แต่ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับนายฉันจะทำยังไง น่านะ โกคุเดระ ให้ฉันตามนายไป...ห่างๆก็ได้


นาย...เป็นคนร้อนรนตั้งแต่เมื่อไหร่ ยามาโมโตะ ทาเคชิ


คำเปรยเหยียดหยันเอ่ยจากปากวายุเบาๆ ทั้งที่เจ้าตัวยังหันหลังให้ แต่มันทำให้ร่างสูงชะงักกึก ดวงตาสีน้ำตาลเข้มเบิกกว้างเล็กน้อย ลมหายใจติดขัดเมื่อวายุพูดต่ออย่างแล้งไมตรี


บางทีนายควรจะรู้เอาไว้ว่ามือขวาแห่งวองโกเล่ไม่ได้หรูแค่ตำแหน่ง หน่วยจู่โจมของวายุไม่ได้ร้ายกาจแค่ชื่อ ฉันว่านายควรเอาเวลาที่สูญเปล่าตรงนี้กลับตึกไปทำงานจะดีกว่า


พูดเพียงแค่นั้น แล้วก็เดินจากไป แต่ครั้งนี้พิรุณไม่อยากจะเดินตาม เพราะเขารู้ว่าตามยังไงคงตามไม่ทัน มีแต่ร่างโปร่งบางร่างนั้นจะเดินจากเขาไปไกลเรื่อยๆ น้ำเสียงเย็นชา ฟังดูห่างเหินยังวนเวียนไม่จางหายไป คนตรงหน้าเรียกเขาด้วยชื่อพร้อมสกุล ไม่มีคำว่า ไอ้บ้าเบสบอล ไม่มีน้ำเสียงแหวหรือตะคอกอย่างเก่า


เป็นเพียงบทสนทนาของคนที่รู้จัก...แค่ผิวเผิน...


ฉันเป็นได้แค่นั้นใช่มั้ย...โกคุเดระ




คฤหาสน์ของปาสติสวิลลา แฟมิลี่


เฟอร์รารี่สีแดงสดคันหรูพิมพ์ตราวองโกเล่ประจำตำแหน่งวายุแห่งวองโกเล่แล่นมาจอดเทียบท่าหน้าคฤหาสน์ในไม่กี่นาทีถัดมา คงเป็นเพราะปาสติสวิลลาเป็นเครือการค้าของวองโกเล่ ที่ตั้งเลยไม่ห่างกันมากนัก


ร่างระหงก้าวลงจากรถ เนตรสีมรกตเหยียดมองคฤหาสน์ของคู่เจรจาตั้งแต่ดาดฟ้ายันชั้นล่างสุด เท่าที่รู้มาที่นี่ถูกขนานนามว่า  ปราการวายุ ชื่อที่โกคุเดระ ฮายาโตะ บอกได้คำเดียวว่าหมั่นไส้ สาเหตุจะมาจากอะไรเขาไม่รู้ล่ะ แต่รู้สึกไม่ถูกชะตากับที่นี่ตั้งแต่เหยียบพื้นอาณาเขตของมัน


เอาเถอะ เขามาแค่เจรจา ไม่นานก็กลับ จะยอมกลั้นหายใจซักพักก็ได้


เฝ้าข้างนอกไว้ให้ดี มีอะไรให้รีบรายงานฉัน หันไปกำชับกับเลขาส่วนตัวและลูกน้องอีกสองสามคน ก่อนจะก้าวเข้าไปปะกับลูกน้องของทางปาสติสวิลลาที่มารับพอดี


ยินดีต้อนรับครับ ท่านโกคุเดระ ฮายาโตะ วายุแห่งวองโกเล่ บอสรออยู่ที่ห้องรับรองเรียบร้อยแล้วครับ คำกล่าวต้อนรับอันไม่น่าพิสมัยโดยเฉพาะการเน้นคำว่า วายุ นั่นแหล่ะ คิ้วเรียวถึงขมวดเข้าหากัน


จำได้ว่าฉันไม่ได้บอกซักคำว่าจะมา บอสพวกแกนี่เตรียมตัวพร้อมดีจริงนะ คำปรารภของร่างโปร่งบางทำให้คนต้อนรับคลี่รอยยิ้มรับ แต่ไม่ได้น่าดูแม้แต่นิดเลย


บอสของเราประสาทสัมผัสดีเป็นพิเศษครับ ถ้าเป็นคนธาตุวายุ ยิ่งบริสุทธิ์ก็ยิ่งได้กลิ่นมาแต่ไกล...เชิญทางนี้เลยครับ


ปากดี!


ร่างโปร่งบางขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน แต่ก็ต้องเดินตามเจ้าคนต้อนรับสามหาวไปที่ห้องรับรอง พลางสายตาก็กวาดไปรอบๆเพื่อหาทางหนีทีไล่ได้ทันถ้าหากฝ่ายโน้นเกิดอยากใช้กำปั้นคุยขึ้นมา แต่ไม่พบอะไรที่ผิดแปลก ห้องโถงโล่งๆ ภายในตกแต่งแบบรัสเซีย ถ้วยโอชาม แจกันวางตามมุมผนังห้อง ภาพวาดต่างๆนานา เฟอร์นิเจอร์หรูราคาแพงสมกับเป็นแฟมิลี่ที่เด่นด้านการค้าขายแบบที่โกงชาวบ้านชาวช่องเขาน่ะนะ


ก๊อกๆ


บอสครับ แขกมาถึงแล้วครับ ชายหนุ่มพาเขามาหยุดที่ห้องๆหนึ่ง พอสิ้นเสียงตอบรับจากข้างในก็เปิดประตูแล้วผายมือเชื้อเชิญ ข้างในห้องก็หรูไม่แพ้ข้างนอก พรมชั้นดีกับแอร์เย็นต่ำองศา โต๊ะกระจกหรูและบุคคลๆหนึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวใหญ่ที่ทำให้เนตรสีมรกตหรี่ลงอย่างพิจารณา


ชายหนุ่มวัยฉกรรจ์รูปร่างสะโอดสะอง ผมสีทองอร่ามยาวที่ถูกมัดรวบไว้ทางด้านหลัง นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนดูแพรวพราวและล้ำลึก ชุดทักสิโด้สีขาวและหูกระต่ายสีแดงดูยังไงก็ไม่ใช่เครื่องแบบของมาเฟีย ถ้าไม่บอกว่าที่นี่คือแก๊งค์ปาสติสวิลลา ร่างโปร่งบางบอกได้เลยยังไงหมอนี่ก็ไม่เค้าความเป็นมาเฟีย เพราะกลิ่นรักความสำราญเหมือนพวกไฮโซมันโชยหึ่ง


ยินดีต้อนรับ โกคุเดระ ฮายาโตะคุง The storm guardian of Vongola” น้ำเสียงนุ่มทุ้มพร้อมสายตาที่จับจ้องมาอย่างไร้มารยาทเริ่มทำให้ร่างโปร่งบางเกิดฉุน แต่ก็ต้องพยายามท่องไว้ว่าเป็นแค่การเจรจา วายุวางแฟ้มลงบนโต๊ะและนั่งลงตรงข้ามเจ้าถิ่น โดยไม่สนใจว่าจะทำให้มือที่ยื่นออกไปรอให้มือบางมาจับทักทายต้องรอเก้อ


ผมมาที่นี่เพื่อเจรจากับคุณเรื่องธุรกิจการค้า ทางเราจับได้ว่าคุณพยายามจะโก่งกำไรให้สูงโดยมันผิดสัญญาที่ทำเอาไว้เมื่อครึ่งปีก่อน หลักฐานเราก็มี ผมคิดว่าเรื่องนี้คุณจะไม่ปฏิเสธ คำกล่าวหาดังออกมาเป็นชุด พร้อมมือบางที่พลิกเอกสารแล้วหมุนให้อีกฝ่ายดู วินด์เคจหัวเราะเบาๆ นึกถูกใจนิสัยเถรตรงของร่างบางข้างหน้าอย่างยิ่ง


สมกับเป็นวายุต้องห้าม...คนสำคัญที่วองโกเล่หวงแหนนัก


จะให้ฉันเจรจากับคนที่ไม่รู้จักคงจะไม่ได้หรอกมั้ง นี่โกคุดระคุง ปฏิสัมพันธ์กับคู่เจรจาเป็นสิ่งที่ไม่อาจเลี่ยงนะ คำสั่งสอนยิ้มๆของคนอาวุโสกว่า เล่นอยากให้โกคุเดระขย้อนของเก่าออกทิ้งเสียให้ได้ ในใจรู้สึกคลื่นเหียนกับหน้าหมอนี่เต็มทน


คุณรู้จักผม ไม่มีประโยชน์ที่ผมจะแนะนำตัว เราควรจะรีบคุยธุระให้เสร็จโดยเร็ว ถ้าคุณว่าง่ายเรื่องนี้คงหยุดที่การเจรจาระหว่างคุณและผม ไม่ต้องไปเดือดร้อนถึงรุ่นที่สิบ ดวงหน้าของวายุเชิดขึ้นอย่างมีมาด แต่นั่นเป็นเสน่ห์ที่ทำให้บอสแห่งปาสติสวิลลาเทใจให้ไปเต็มๆ ปากเก่ง ถือดี หยิ่งในศักดิ์ศรี นิสัยไม่เป็นมิตรทำให้ดูน่าค้นหา


คุณสมบัติของคนๆนี้ช่างต่างจากคนธาตุวายุที่เขาเคยเล่นมา


ฮะๆๆๆ โอเคๆ คุยเรื่องงานก็ได้ ยิ่งเสร็จเร็วเมื่อไหร่ เราก็คงมีเวลาคุยเรื่องอื่นกันมากขึ้น...ถึงเวลานั้นหวังว่าโกคุเดระคุงจะไม่รีบกลับ ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนของวินด์เคจจ้องลึกลงมาในเนตรมรกตน้ำงามอย่างหลงไหลยิ่งทำให้คนถูกจ้องอยากควักออกมาจากเบ้าใจจะขาด และปากที่ฉาบด้วยรอยยิ้มกะลิ้มกะเหลี่ยก็ชวนให้ยัดไดนาไมต์สักสองสามแท่ง


บ้าเอ๊ย! อย่าให้พ่อขันแตกนะแก! ฉันจะเป่าแกไปพร้อมกับปราการบ้าๆนี่แหล่ะ!


ตกลงจะเอายังไง คุณเล่นไม่ซื่อราคาสินค้ามาถึงสองครั้ง ทำแบบนี้คุณกำลังดูถูกข่ายข้อมูลของวองโกเล่อยู่ อย่าคิดว่าครั้งแรกผมจะไม่รู้ แต่รุ่นที่สิบไม่อยากให้ไก่ตื่นเลยปล่อยไป แต่ไม่คิดว่ามันจะมีครั้งที่สอง แล้วกำไรที่แก๊งค์คุณโก่งไปมันไม่ใช่น้อยๆ คิดจะลองดีกับวองโกเล่ผมไม่สนับสนุน


ตบท้ายด้วยข้อความหาเรื่องที่เติมไปด้วยความเหม็นหน้าโดยส่วนตัว บอสแห่งปาสติสวิลลาจ้องคู่เจรจาอ่อนวัยแต่กล้าหาญเกินพิกัด ก่อนจะขยับยิ้มเย็นที่มุมปาก


นั่นสิๆ ไม่มีใครกล้าลองดีกับวองโกเล่หรอก แต่ถ้าลองดีแล้วได้แลกกับอะไรบางอย่างมันก็ไม่เลวไม่ใช่เหรอ คนเราน่ะถ้าหลงใหลในสิ่งใดก็ใคร่อยากจะสัมผัส ยิ่งสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่น่าดึงดูด คนลือกันนักกันหนาว่าได้มาครอบครองยากเหลือคณา มันก็ยิ่งเพิ่มราคาให้น่าจับจอง...


วินด์เคจสาธยายตาใสแจ๋วซึ่งวายุบอกได้เลยว่าเขาไม่เข้าใจ คิดได้อย่างเดียวว่าหมอนี่มันเมาอากาศไปแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นบรรยากาศในห้องสนทนาก็เย็นเฉียบอย่างผิดปกติ เมื่อบอสแห่งปาสติสวิลลาโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ แล้วกระซิบเสียงแผ่ว


สิ่งหอมหวาน...อย่างวายุแห่งวองโกเล่ยังไงล่ะ...


ปัง!


เพียงเท่านั้นความอดทนของร่างโปร่งบางก็สิ้นสุด มือบางตบลงกับโต๊ะดังลั่น แล้วลุกจากเก้าอี้ทันที เนตรสีมรกตประกายโรจน์อย่างโกรธจัด ตอนแรกเขาแค่อยากจะตัดชื่อไอ้บ้านี่ออกจากเครือการค้า แต่ตอนนี้เปลี่ยนใจ...เขาอยากกระทืบมันให้จมดินมากกว่า!


ฉันไม่ใช่เพื่อนเล่นแกนะวินด์เคจ! คุยกับแกนี่เสียเวลาจริง บางทีฉันควรจะตัดหางแฟมิลี่แกแล้วเอาไปปล่อยวัดตั้งแต่แรก


โอ๊ะ โอ...ดุจัง เนี่ยแหล่ะน้าทำให้ฉันหลงในตัวคนธาตุวายุ เป็นพวกหัวดื้อ ทิฐิสูง ฉลาดเป็นกรด แถมยังพลิ้วไหวจนจับไม่ทันมันยิ่งท้าทายความสามารถ แต่ไว้ใจเถอะ เธอน่ะ...เป็นนัมเบอร์วันในใจฉันเลย


คนอย่างแก เอาไว้ไม่ได้แล้วมั้ง วองโกเล่ริงสัญลักษณ์วายุที่โหมกระหน่ำบนนิ้วงามขยับล้อแสงไฟ ร่างโปร่งบางกำลังเปลี่ยนพลังใจให้กลายเป็นไฟดับเครื่องชนพร้อมที่จะฝังศพไอ้วิปริตตรงหน้า แต่ทว่าดวงหน้าของผู้ครองแหวนซีดทันตา เมื่อ...


ไม่มีอะไรเกิดขึ้น! ไฟดับเครื่องชนจุดไม่ติด!!!


บ้าน่า!


นี่...ไม่คิดบ้างเหรอว่าทำไมที่นี่ถึงถูกเรียกว่า ปราการวายุ น้ำเสียงนุ่มยังเอ่ยสบายๆเรียกให้ร่างโปร่งบางเงยมอง ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนคู่นั้นฉายแววสนุก ริมฝีปากแย้มยิ้มแต่เชือดเฉือน ดูต่างจากตอนแรกไปเป็นคนละคน


เพราะคนธาตุวายุถ้าเข้ามาแล้วจะไม่สามารถแผลงฤทธิ์ได้ ถ้าพูดตามประสาพ่อมดหมอผีมันก็เขตอาคมดีๆนี่แหล่ะ วายุที่โหมกระหน่ำพัดไม่รู้จักหยุดหย่อนมาอยู่ที่นี่ก็เป็นแค่สายลมบางเบาไร้พิษสง สุดท้ายก็ต้องถูกจับขังกรงหมดซึ่งอิสรภาพ!”


โรคจิต? ประสาท?


จะอย่างไรก็แล้วแต่ ตอนนี้ต้องหาทางหนีก่อน แหวนใช้การไม่ได้ จะสู้ในห้องแคบๆนี่โกคุเดระ ฮายาโตะไม่สบอารมณ์เลยสักนิด พลันนิ้วเรียวก็แอบคีบระเบิดควันตัวช่วยในการหลบหนีแล้วดีดเพียะออกไป!


ควันหนาปกคลุมห้อง มองอะไรไม่เห็น แต่ไม่ใช่กับคนที่ชินกับมันอย่างวายุแห่งวองโกเล่ที่อาศัยควันอำพรางตัวรีบหาทางออกจากห้องนี้โดยเร็วที่สุด และไม่ใช่กับคนอย่างวินด์เคจที่ตามกลิ่นสายลมดีอย่างอัศจรรย์ เพราะสุดท้ายร่างโปร่งบางสะดุ้งเฮือกเมื่อมีมือใหญ่มาฉุดแขนเอาไว้แล้วออกแรงกระชากจนตัวปลิว


จมูกฉันดีน่า โกคุเดระคุง อย่าคิดหนีเลย ถ้าว่าง่ายๆฉันจะไม่ทิ้งเธอเหมือนคนอื่นๆ เชื่อสิ


ปล่อยฉัน!! ไอ้โรคจิต!!!” ร่างบางดิ้นพล่านอย่างแรง แต่คงไม่สะทกสะเทือนกับกรงเหล็ก อีกทั้งยังเป็นร่างกายที่มันเพิ่งออกจากโรงพยาบาลไม่กี่วัน กล้ามเนื้อก็ขยับได้ไม่เต็มที่ดั่งใจสั่ง หัวเจ้ากรรมมันก็กำเริบปวดบ้าอะไรตอนนี้ก็ไม่รู้


หึหึหึ เอาล่ะ...จะจับวายุคนนี้ใส่กรงล่ะนะ เสียงหัวเราะน่าขยะแขยงดังอยู่ริมหู สองมือของผู้พันธนาการบีบแขนของร่างโปร่งบางแน่น ความรู้สึกราวคีมเหล็กที่ล็อคแน่นไม่ปล่อยให้ขยับเขยื้อน เขาหลับตาปี๋เมื่อใบหน้านั้นค่อยๆใกล้เข้ามา...


เฟี้ยว...ฉึก!


โอ๊ย!!” ฉับพลันบอสแห่งปาสติสวิลลาร้องลั่น พร้อมปล่อยมือวายุให้เป็นอิสระ ทำให้ร่างโปร่งบางรู้ว่าไอ้เสียงเมื่อกี้คือเสียงดาบสั้นเล่มหนึ่งที่มันพุ่งมาปักมือของวินด์เคจจนเลือดกระฉูด ใบหน้านั้นโกรธเกรี้ยวระคนเหยเกด้วยความเจ็บปวด


ใครวะ!!!?” น้ำเสียงแหบห้าวตวาดไปทางที่มีดลอยมา แต่เพราะฤทธิ์ของควันระเบิดที่ยังไม่จางดีนักทำให้เห็นเพียงรางๆ ว่ามีร่างๆหนึ่งยืนพิงประตูอยู่ เสียงอาวุธโลหะเคาะเคร้งกับขอบประตูต้องแสงไฟให้เห็นคมวาววับ วินด์เคจอาจจะไม่แสดงท่าทีตกใจอะไร แต่ไม่ใช่กับวายุที่เบิกตากว้างเมื่อบุคคลปริศนาเอ่ยเสียง


วินด์เคจ...ในโลกนี้คุณสามารถจับวายุเข้ากรงของคุณได้หมดก็จริงหรอกนะครับ


...



แต่ต้องไม่ใช่วายุแห่งวองโกเล่





TBC...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น