หน้าเว็บ

วันอังคารที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2557

Au.Fic KHR 8059 [Yamamoto X Gokudera] Ft. Levi X Eren SKYFALL -BlackBird- : 14.5



Project : Happy birthday Gokudera Hayato

Au.Fic KHR 8059 [Yamamoto X Gokudera] Ft. Levi X Eren

Drama comedy!? (มันอะไรกันล่ะนั่น!)

คำเตือน เนื้อหาในเอนทรีนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากท่านใดรับไม่ได้หรือไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิด
หน้าต่างนี้ไปค่ะ

SKYFALL 14.5 Introduction to "BlackBird"








            “สรุปแล้ว โกคุเดระ ฮายาโตะกับแดชีลล์ เลอรอยด์รอดชีวิต?” เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นจากหลังเก้าอี้นวมตัวใหญ่ ชายสูงวัยผู้เป็นผู้รายงานยืนนิ่งตัวตรงในท่าทีที่สำรวมที่สุด คนถูกถามโค้งรับช้าๆ แล้วตอบอย่างสุภาพ

            “ครับท่าน แล้วตอนนี้ประธานโกคุเดระก็ออกจากโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม เบธิลด์ ทาวเวอร์สาขาหลักปารีสก็เสียหายเกินกว่าจะบูรณะได้ภายในเวลาอันสั้น ดังนั้นมีความเป็นไปได้สูงมากว่า แดชีลล์ เลอรอยด์จะโอนกรรมสิทธิ์การถือหุ้นของประธานยามาโมโตะไปที่สาขานิวยอร์ก ที่จะเปิดตัวในเดือนหน้า”

            “ตรงกับเวลาที่เราจะต้องส่งอาวุธเลยไม่ใช่หรือไง” เสียงทุ้มต่ำนั้นเปรยขึ้นอย่างราบเรียบหากแต่ท้ายประโยคกลับเย็นยะเยือก สตีเฟน แมคคาร์ทียืนตัวแข็งเมื่อเก้าอี้นั้นหันกลับมาหาตนอย่างช้าๆ พร้อมๆกับสายตาคมกริบที่ไม่อาจคาดเดาความรู้สึกได้จ้องมาอย่างนิ่งงัน เท่านั้นชายชราก็รู้ ว่าตอนนี้เขาไม่ต่างอะไรจากหนูตัวเล็กๆที่รอคำตัดสินโทษเป็นตายจากพญาราชสีห์ โดยเฉพาะคำถามถามซ้ำที่ตามมา

            “ใช่ไหม....”

            ไม่ใช่แค่คำเปรยหรือคำถามธรรมดา แต่มันเป็นการทบทวน...ทบทวนความผิดพลาดของเขาที่พลาดท่าให้กับเด็กอายุเพียงแค่สิบเก้าปีในการประมูลเบธิลด์ แล้วถ้าเขาพาคนของบอสไปติดกับเครื่องสแกนลายนิ้วมือของยามาโมโตะ ทาเคชิอีก มันไม่จบเพียงแค่การที่เขาถูกบอสเรียกคุยตัวต่อตัวในห้องมืดแบบนี้แน่

            แต่คงไม่ใช่ถูกทำร้ายร่างกายหรือทารุณกรรมอะไรพวกนั้น บอสของเขาไม่ได้มีอุปนิสัยซาดิสม์

            เพราะงั้นโทษของคนที่ทำงานไม่สำเร็จแล้วทำความเดือนร้อนมาสู่องค์กรมีเพียงสถานเดียวเท่านั้น

นั่นคือตาย...

แล้วที่เขายังไม่ตาย คงเพราะบอสเห็นว่าเขายังเป็นประโยชน์อยู่ ก็ไม่ต่างอะไรจากโกคุเดระหรือยามาโมโตะที่ยังถูกปล่อยให้กางเขี้ยวกางเล็บอยู่ทุกวันนี้

            “แกเป็นคนที่สัมผัสกับเด็กนั่นมากที่สุด คิดว่ายังพอมีทางไหมที่จะให้เด็กนั่นส่งอาวุธให้กับเรา”

            “โกคุเดระ ฮายาโตะคือคนที่พร้อมจะแลกกับทุกสิ่งเพื่อผลประโยชน์ของโกคุเดระ แอร์ไลน์ครับบอส” ชายชราตอบอย่างไม่ลังเล ขยับยิ้มมุมปากเมื่อนึกถึงเด็กที่อยู่ในบทสนทนานี่ มันทั้งน่าแค้นและน่าชื่นชมพอๆกัน “เพียงแต่ว่าตอนนี้เรายังไม่เล็งเห็นถึงโอกาสเหมาะ แม้ว่าโกคุเดระจะไม่ได้เป็นหุ้นส่วนกับเบธิลด์ ทาวเวอร์ แต่ก็คงจะยังไม่สุ่มสี่สุ่มห้าทำอะไรในช่วงเดือนนี้ เด็กนั่นมีนิสัยชอบวางแผน เขาคงจะรอดูท่าทีกระแสเศรษฐกิจ ความต้องการของพวกกิจการโรงแรมหรือห้างสรรพสินค้าว่ามีความต้องการทางตลาดอย่างไร ถึงจะเริ่มคิดหาโปรเจคต่อไป ที่เห็นจะคึกคักคือช่วงนี้มีคนเดินทางกับทัวร์ในเครือโกคุเดระมากขึ้นเพราะผลจากการได้เอเบลล์ โฟล โบดูอองเป็นนางแบบโฆษณาครับท่าน”

            สตีเฟนรายงานตามความคิดของตนพลันก็ลอบสังเกตคนฟังไปด้วย สีหน้าของบอสเขาไม่มีความหงุดหงิดหรือเคียดแค้นอยู่ ไม่เท่านั้นยังเต็มไปด้วยความคิดและความมุ่งมั่นสนใจ เจ้าเด็กผมสีเงินนั่นเป็นคนแรกที่ทำให้บอสของเขายอมรับฟังและรอคอยอย่างใจเย็น ยอมที่จะศึกษาและดูท่าทีทั้งๆที่การทำธุรกิจมันไม่ควรจะมีช่องว่างให้รอได้ขนาดนั้น อีกอย่างหนึ่งปลาตัวใหญ่ที่ชื่อว่าโกคุเดระ ฮายาโตะ...มันยังเป็นปลากินเนื้อ โดนแว้งกัดกลับมา...แต่บอสก็ไม่เข็ด ยังคิดหาทางดึงมาเป็นหมากตลอดเวลา

            “เหมือนจะสงสัยสินะ ว่าทำไมฉันยังคิดจะใช้คนที่เลี้ยงไม่เชื่อง อย่างโกคุเดระ ฮายาโตะ” สตีเฟนสะดุ้งเฮือกเมื่อถูกถาม เหมือนเขาจะสังเกตคนเบื้องหน้ามากไปจนทำให้รู้สึกตัว ชายชรารีบหลบสายตาแล้วค้อมศีรษะให้

            “ขออภัยที่เสียมารยาทครับท่าน”

            “เพราะคนที่เลี้ยงไม่เชื่องมันมีนิสัยที่ไม่เหมือนคนอื่นอยู่อย่าง รู้จักทฤษฎี The Mental Iceburg ของฟรอยด์ใช่ไหม...ที่ว่ากันว่ามนุษย์มีการแสดงออกทางพฤติกรรมที่มีผลมาจากจิตใจเพียงแค่ส่วนน้อยเท่านั้น เหมือนกับยอดภูเขาน้ำแข็งที่โผล่พ้นอยู่กลางมหาสมุทร...แต่ส่วนใหญ่แล้วมันจะอยู่ภายใต้จิตใจหรือก็คือจิตไร้สำนึก...เรียกง่ายๆว่าสัญชาตญาณ” ชายวัยสามสิบต้นๆบนเก้าอี้หนานุ่มเริ่มขยับรอยยิ้มจาง แล้วขยายความ

            “อยู่ใต้ผืนน้ำ...หยั่งรากลึก...มีขนาดใหญ่มหึมา ถึงขั้นทำให้เรือไททานิคจมได้ ว่ากันว่ายิ่งมันเข้าใกล้ก้นทะเลที่ดำมืดมากเท่าไหร่ จิตไร้สำนึกของมนุษย์ก็ยิ่งวิปริตมากเท่านั้น ความเห็นแก่ตัว ความทะเยอทะยาน ความต้องการ ความใคร่...ใช่ทั้งหมดนั่นแหล่ะ โดยเฉพาะความทะเยอทะยาน คนที่เสพติดความเป็นท็อปคลาสอย่างโกคุเดระ ฮายาโตะย่อมมีมากกว่าใคร”

            “แต่ผมเกรงว่าเด็กคนนี้เล่นยาก” สตีเฟนค้านออกไปอย่างสุภาพ ดวงตาสีเขียวมรกตคู่สวยคู่นั้นยังคงอยู่ในความทรงจำของเขาว่ามันสะท้อนอะไรออกมาบ้าง แต่ที่ไม่มีเลยคือ...การพึ่งพาอำนาจของโลกมืด โกคุเดระ ฮายาโตะไม่ใช่คนโลกสวย เด็กนั่นกร้านโลกธุรกิจเกินกว่าวัยเสียด้วยซ้ำ

            ชายชราผ่อนลมหายใจนิด แล้วว่าต่อ

            “เด็กนั่นไม่ได้รังเกียจกับวิธีการของพวกเรา แต่ก็ไม่คิดที่จะแตะต้อง คนแบบนี้ถูกย้อมยากนะครับ”

            “ฉันก็ไม่ได้บอกว่าจะย้อมสักคำ” คนเป็นนายโพล่งขึ้น นิ้วเรียวแข็งแร่งประสานกันแล้ววางบนโต๊ะ หัวเราะเสียงต่ำในลำคอ “แกพูดถูก...เด็กนั่นไม่เหมาะกับโลกนี้หรอก เพราะมันไม่ใช่คนที่ใฝ่หาในอำนาจ..”

            “แต่เป็นคนที่รู้เท่าทันอำนาจ”

            เพราะอย่างนั้นถึงต้องใช้ให้ได้ไง...









            “เดือนนี้เดือนอะไร” เสียงหนึ่งเอ่ยถามขึ้นจากบริเวณหัวโต๊ะ จริงจังเด็ดขาด แต่ก็น่าฟังอยู่วันยังค่ำ

            “กุมภาพันธ์ครับ” เลขาร่างสูงโปร่งเจ้าของตำแหน่งลอร์ดคริสโตเฟอร์ตอบให้ คนถามยิ้มมุมปากแล้วพยักหน้าหงึกหงักก่อนที่จะลุกขึ้นจากเก้าอี้นวมอย่างดีแล้วค่อยๆย่างเท้าเดินไปรอบๆห้องประชุมที่เงียบกริบที่มีเหล่าหัวหน้าของแต่ละแผนกนั่งเรียงกันเป็นตับ บางคนเกือบจะเป็นรุ่นปู่ แต่บางคนก็เรียกว่าจบมหาลัยปุ๊บ ทำงานปั๊บ แต่ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร มาจากไหน อายุเท่าไหร่ แต่เจอซีอีโอสูงสุดนามโกคุเดระ ฮายาโตะเป็นอย่างนี้มันก็ชวนครั่นเนื้อครั่นตัวกันทั้งนั้น

            รอยยิ้ม..ใช่! ท่าทางการเดิน...เป๊ะ! สรุปได้เลยว่าตอนนี้เจ้านายคนเก่งของพวกเขากำลังคิดจะทำอะไรสักอย่าง แล้วพวกเขาจะงานเข้าครั้งยิ่งใหญ่ แน่นอน! มันใหญ่อยู่แล้ว ทำหรับท่านฮายาโตะ งานเล็กไม่! งานใหญ่ชอบ!

            “แม้จะเป็นเวลาเพียงแค่ไม่ถึงเดือนที่เราไม่ได้โคหุ้นส่วนกับเครือ The Best  แต่ฟีดแบ็คของเรา ไม่ว่าจะเป็นแบบสำรวจความพึงพอใจทั้งทางเอกสารและจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ล้วนแต่มีผลในทางลบ” ท่านประธานร่างบางเริ่มแจง เว้นจังหวะแล้วเน้นคำว่าลบอย่างชัดเจนแม้ตัวคนพูดเองนั่นแหล่ะที่ดูท่าจะเจ็บใจที่สุด ดวงตาสีมรกตกลอกไปรอบห้อง สำรวจกริยาซีดๆของลูกน้องจนพอใจแล้วก็ว่าต่อ

“ยกตัวอย่างง่ายๆเช่นถ้าหากมีนักท่องเที่ยวที่ประสงค์จะคณะทัวร์ของเราเมื่อจัดทัวร์ข้ามทวีป สมมติว่าไปอังกฤษ นักท่องเที่ยวจะเช็คหาว่าโรงแรมที่เขาพักใช่ The Best  Amari หรือไม่ แต่พอไม่ใช่ มีผลออกมาว่านักท่องเที่ยวได้ยกเลิกเที่ยวบินของเราไปประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ แล้วเลือกที่จะไปบินกับสายการบินอื่นที่โคกับ The Best แทน มันเลยเป็นโอกาสดีให้สายการบินอื่นนั้นเริ่มติดปีกบิน บางที่จัดโปรโมชันลดค่าทัวร์พิเศษ บางที่ไม่ลด แต่มีบริการเสริมพิเศษระหว่างทริปเช่นสิทธิช็อปห้าง The Best ในวงเงินย่อมๆ” โกคุเดระฉีกยิ้มกว้างหนึ่งทีแล้วหุบลงอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็เงียบยาวเป็นตัวแทนคำถามว่า ทุกคนในที่ประชุมมีอะไรคัดค้านไหม

เงียบกริบ...แปลว่าไม่มี แน่อยู่แล้ว มันจะค้านอะไร ในเมื่อหลักฐานทุกอย่างที่เขาพูดแจงเป็นกราฟๆเด่นอยู่บนจอโปรเจคเตอร์กลางห้อง

“มันฟังดูเว่อร์ ที่พอเราไม่ได้โคกับยามาโมโตะแล้ว อะไรหลายๆอย่างมันก็ดรอปลง แต่นี่มันเป็นความจริง เราไม่สามารถโทษลูกค้าได้ที่เขายึดติดกับ The Best นั่นก็เพราะมันคือความพอใจของลูกค้า แล้วเราที่ทำงานบริการก็ควรจะคิดถึงจุดนั้นเป็นข้อแรกด้วยเช่นกัน...ฝ่ายการตลาดและโฆษณาครับ” เสียงเรียกพร้อมกับดวงตาที่หันไปทางเจ้าหน้าที่หลังป้ายระบุตำแหน่งอย่างแม่นยำทำให้คนโดนเรียกค้อมศีรษะรับคำให้อย่างทันท่วงที

“ผมมอบหมายงานให้คุณไปดูเรื่องการบินในประเทศ ช่วงนี้จังหวัดที่จะมีงานเทศกาลจะคึกคักเป็นพิเศษเลยนะ เพราะฉะนั้นพวกโรงแรมจะเต็มทั้งหมด แต่ถ้าเราสามารถประสานงานได้ก่อนก็จะได้เปรียบ ผมขอดูแผนงานคร่าวๆในอีกสี่วันนะ” คนถูกมอบหมายงานรับคำสั่งอย่างสุภาพพร้อมกับรอยยิ้มชื่นชมเจ้านายตัวเองอยู่ลึกๆ เจ้านายของพวกเขาไม่ใช่พวกสักเอาแต่สั่ง แต่จะให้ข้อคิดและข้อเสนอแนะทุกครั้งที่มอบหมายงาน

“แต่ท่านประธานครับ ถ้าช่วงนี้หวังเพียงแค่การบินภายในประเทศ คาดว่าพวกเราจะยังไม่พ้นเส้นขาดทุนนะครับ”

“ไม่พ้นแน่ๆแหล่ะ” ร่างบางรับความเป็นจริงด้วยรอยยิ้มเจื่อนๆ แถมด้วยหัวเราะแห้งๆสองสามที “เพราะงั้นผมก็เลยมีอีกหนึ่งโปรเจคมาเสนอทุกคน นี่เป็นโปรเจคเสริม ลงทุนมาก แต่ผลตอบแทนก็นับว่าคุ้มอยู่...คือช่วงนี้ใกล้กับไฮซีซัน ไม่ใช่เฉพาะในญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ที่อื่นก็ประสบปัญหาเดียวกันหมดนั่นคือปริมาณนักท่องเที่ยวที่ล้นหลาม ไม่เฉพาะที่พักเท่านั้นที่เต็ม...แต่ร้านอาหาร และร้านค้าต่างๆก็เข้าทำนองเดียวกัน...แล้วพอกรณีนี้มันเกิดขึ้น ทุกท่านคิดว่าอะไรจะเกิดเป็นปัญหา ถ้าหากไม่ใช่วัตถุดิบขาดแคลน...ถ้าหาได้ภายในประเทศหรือเมืองของตนเป็นแหล่งผลิตอยู่แล้วมันก็ไม่มีปัญหาอะไร...แต่ถ้าวัตถุดิบเหล่านั้นมันนำอิมพอร์ตขึ้นมาล่ะ?

คำถามที่ทิ้งเอาไว้ให้ทุกคนคิด ซึ่งทำให้ทุกคนเห็นไอเดียของท่านประธานขึ้นมารางๆ วัตถุดิบที่ไปตามร้านอาหารต่างๆจำต้องมีการขนส่ง ยิ่งบางครั้งเป็นพวกของสดหรืออาหารแช่แข็ง คุณภาพของวัตถุดิบขึ้นอยู่กับเวลาเป็นหลัก แม้บางแหล่งผลิตจะมีการทิ้งสารกัมมันตรังสีไว้ป้องกันการเน่าเสีย แต่มันจะดีกว่าไหมถ้าของที่ส่งสามารถไปถึงที่หมายได้โดยสดสะอาดเหมือนเดิม แถมยังไม่ปนเปื้อนสารอันตราย

ใช่...นี่เป็นเรื่องที่ทำให้เขาต้องนอนน้อยเมื่อคืนเพื่อที่จะคิดว่า จะเป็นอะไรไหม ถ้าโกคุเดระแอร์ไลน์จะทำโปรเจคพิเศษหารายได้มาจุนเจือในส่วนของ The Best ในรูปของการขนส่ง เพียงแต่ว่าไม่ใช่คน...แต่เป็นของ

“เราต้องใช้เครื่องบินที่มีความเร็วสูงมากครับท่านประธาน มากกว่าเครื่องบินพาณิชย์หลายเท่า ซึ่งตอนนี้เรามีโครงการทดลองอยู่พอดี เพียงแต่ว่ายังไม่สมบูรณ์ จึงมีเพียงแค่เครื่องเดียวเท่านั้นที่ใช้การได้ ทำออกมาในรูปเครื่องบินรบที่มีคนนั่งเพียงแค่สองคน” ข้อมูลเพิ่มเติมยาวเหยียดจากลอร์ดคริสโตเฟอร์ เจ้าตัวดันแว่นขึ้นเล็กน้อยเพราะต้องแอบกลั้นรอยยิ้มขำเมื่อเห็นสีหน้าอิหลักอิเหลื่อของเจ้านายตัวเอง คงจะไม่ลืมเหตุการณ์เมื่อเกือบเดือนก่อนว่าใครหนอใครที่บังอาจนั่งเครื่องบินพิเศษของเครือโกคุเดระไปช่วยเขาถึงปารีส

โกคุเดระกระแอมทีหนึ่งเพื่อเรียกสติตัวเอง แล้วถามใหม่

“ปัญหาคืออะไร”

“เรื่องหลักอากาศพลศาสตร์ครับ เรายังไม่สามารถออกแบบเครื่องบินที่มีพื้นที่เพียงพอในการบรรทุกของแต่ยังคงความเร็วสูงได้ ยิ่งใหญ่ยิ่งต้าน เพราะฉะนั้นเราจึงจำเป็นต้องมีวิศวกรการบินที่มีความชำนาญพิเศษมาจัดการเรื่องนี้ครับ...น่าเสียดายที่เครือเรายังไม่มีบุคลากรเช่นนั้น”

“วิศวกรการบินที่เก่งๆหรอ...” เสียงใสลากยาวพร้อมกับกลอกตาคิดไปด้วยท่ามกลางความลุ้นของคนทั้งห้องประชุม หวังว่าคอนเน็คชันที่กว้างใหญ่ของท่านประธานร่างบางคนนี้จะมีคนอย่างว่าอยู่สักคน ถ้าไม่มี พวกเขาคงจะต้องจ้าง เพียงแต่ว่านี่เป็นโปรเจคที่ค่อนข้างลับ ใช้คนที่คุยง่ายและรู้จักเป็นการส่วนตัวอาจจะดีกว่า

“หึ! ผมรู้แล้ว!

“จริงหรอครับ!?

“อือ...มีแน่ๆ” ร่างบางพยักหน้าแข็งขันด้วยรอยยิ้มกว้าง “เก่งมาก แล้วก็เป็นคนค่อนข้างที่จะเอ่อ...ประหลาด”

เท่านั้นเหล่าคนฟังก็สะดุดลมหายใจเฮือก พากันมองหน้าคนพูดตาปริบๆ มันหาไม่ได้ง่ายๆที่ท่านประธานโกคุเดระคนนี้จะให้คำนิยามตัวบุคคลว่าประหลาด ที่ผ่านมามีเพียงแค่สองคนเท่านั้นก็คือ ท่านประธานยามาโมโตะ ทาเคชิ แล้วก็แดชีลล์ เลอรอยด์คนดัง เพราะงั้นนอกจากอาการอึ้งแล้ว ทุกคนก็พากันส่งสายตาถามกลับไปว่า ไอ้ที่ว่าประหลาด...ประมาณไหน

คนตอบยิ้มกว้าง ระบุสั้นๆว่า




“น่าจะมากกว่าผม”




.....อีกหนึ่งผู้ก้มมองท้องฟ้า.....










            TBC...





มิยะขอเม้าท์

มีหน้ามาเม้าท์นะ ไอ้คุณมิยะ! หึหึหึ เอาน่าอินโทรใครเขาให้ยาวกันเล่า มันก็ประมาณนี้แหล่ะ แหม่......=w= // ไอ้ที่ได้แต่อินโทรนี่แหล่ะ สมควรโดนบ้องมากที่สุด แต่ว่า...ยังไงก็ตาม

สุขสันต์วันเกิดนะ หนูก๊ก!

สุขสันต์วันเกิดสุดที่รักของขุ่นมี้!!! จะกี่ปีๆก็รักหนูมากๆๆๆเหมือนเดิม เพราะงั้นก็มีความสุขมากๆนะจ๊ะ เป็นที่รักของคนเนียนๆ?ของเหล่าหม่ามี้ และเพื่อนร่วมแฟมิลีต่อไป เอิ๊กอ๊ากๆ เป็นมือขวาตามแบบฉบับที่หนูอยากเป็น อยากบอมบ์ใครคนไหนยังไงก็บอมบ์ไปโล้ด น่ารัก เอวบางร่างเล็กอย่างนี้ต่อๆไป มาเป็นนางเอก?ฟิคให้ขุ่นมี้บ่อยๆ ขุ่นมี้เองก็จะพยายามขยันปั่นนะ อิอิ
วันนี้ขอแค่อวยพรให้หนูก๊กแล้วกัน แต่ว่าตอนหน้าจิมาเม้าท์เรื่องฟิคให้ฟังนะคะ
ขอบคุณทุกท่านที่มาเยี่ยมเยียน
Miya

            

4 ความคิดเห็น:

  1. อยากอ่านต่อเเล้วน้าาา

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ขอบคุณค่ะที่เข้ามาอ่านเรื่องนี้ มีคนติดตามด้วย ดีใจมากๆเลยค่ะ ต้องขอโทษด้วยจริงๆ หายไปนานมาก เรื่องนี้ไม่ทิ้งๆ แต่งต่อแน่นอน เดี๋ยวดูก่อน น่าจะเป็นวันเกิดอิเนียนคงได้กระเตื้องขึ้นมาบ้าง ขอโทษจริงๆค่ะที่ปล่อยให้รอ // ก้มหัวติดพื้น

      ฝากติดตามด้วยน้าาา ขอบคุณนะคะ

      ลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ12 พฤษภาคม 2558 เวลา 00:53

    ยังไม่มาอีกหรอค้าา มาอ่านรอบที่3แลัว อยากอ่านต่อๆๆ ><

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ตอนนี้มิยะกำลังปั่นฟ้าถล่ม ภาคBB อยู่ ขออภัยที่ให้รอนานนะคะ เพิ่งปิดเทอม ไม่นานเกินรอค่ะ พร้อมเสิร์ฟแน่นอน ขอบคุณมากๆเลยค่ะ

      ลบ