หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดีที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2557

Au.Fic KHR 8059 [Yamamoto X Gokudera] SKYFALL-NEGOTIATION- : 12



Project : Happy birthday P’Kwang [WAKETSU] 12.01.13
Au.Fic KHR 8059 [Yamamoto X Gokudera]
Drama comedy!? (มันอะไรกันล่ะนั่น!)
คำเตือน เนื้อหาในเอนทรีนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากท่านใดรับไม่ได้หรือไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้าต่างนี้ไปค่ะ
และอีกอย่าง ฟิคเรื่องนี้มัน...เว่อร์ได้โล่ วิปริตหน่อยๆ โรคจิตเล็กน้อย สาระค่อนข้างตกตะกอนนอนก้น
ขอให้มีความบันเทิง....ปรารถนาดีจาก Miyaจ้ะ *v*



SKYFALL : 12



          เด็กหนุ่มร่างสูงแนบลำตัวเข้ากับผนังแล้วนับตามจังหวะการก้าวเดินของคนที่กำลังจะประชิดตัวเขา ดวงตาจ้องที่มุมไม่กระพริบ หัวใจแม้มันจะเต้นหนักหน่วงแต่ก็เป็นจังหวะปกติ นิ้วชี้นิ่งค้างที่ไกปืน ทุกอย่างเงียบงันเมื่อตัวเลขที่นับในใจลดลงน้อยจนเข้าใกล้ศูนย์ทุกๆที

สาม...สอง...หนึ่ง

กริ๊ก!

เด็กหนุ่มร่างสูงโผล่พรวดพราดออกมาจากมุมเสาทำเอาชายชุดดำต้องเล็งปืนง้างนกสับขึ้นตามสัญชาตญาณ แขนของนักฆ่าแข็งค้างและเกือบจะลั่นไกหากไม่เตือนตัวเองอยู่เสมอว่าเขายังฆ่าเด็กตรงหน้านี่ไม่ได้จนกว่าจะถอนระบบ แต่สิ่งที่ทำให้เขารั้งมือไว้ทันไม่ได้มีแค่นั้น เด็กหนุ่มไม่ได้ออกจากที่ซุ่มแล้วซัดหมัดหรือส่งลูกปืนมาหาเขา กลับยกมือขึ้นสองข้างแล้วปล่อยเบเร็ตต้า 9000s ร่วงลงกับพื้น

หัวคิ้วของมือปืนอาชีพมุ่นเข้าหากัน แล้วยิ่งขมวดยุ่งมากขึ้นเมื่อเห็นรอยยิ้มมุมปากของคนตรงหน้า

“ผมขอต่อรอง” เด็กหนุ่มเอ่ยขึ้น มือยังยกทั้งสองข้าง แต่ท่าทางและอารมณ์กลับไม่เหมือนคนที่ไร้หนทางรอด ทำให้นักฆ่าตวาดเสียงกร้าว

“แกไม่มีสิทธิ์ต่อรอง!

“แต่ผมว่าผมมี” ใบหน้าหล่อเหลาเปื้อนยิ้มมากขึ้นแม้ไม่เข้ากับปากกระบอกปืนที่ถูกล็อกให้เล็งตรงกลางหน้าอกตรงจุดตายยิ่งกว่าเดิม ซ้ำยังพูดด้วยน้ำเสียงสบายๆ

“ยังไงคุณก็ฆ่าผมไม่ได้อยู่แล้ว สิ่งที่คุณจะทำต่อไปนี้ก็คือเอาปืนนั่นมาจ่อหัวผมใกล้ๆ บังคับให้เดินกลับไปที่ห้องแล้วสั่งให้ผมเขียนโค้ดแก้ระบบ...อ้อ คุณต้องสั่งให้ผมเปิดสไกป์ด้วย จะได้ถูกต้องตามบทตัวประกัน...พวกลูกน้องผมที่อยู่ญี่ปุ่นเห็นผมมีลูกกระสุนอยู่ห่างหัวไม่เกินสี่นิ้วก็ต้องยอมอยู่แล้ว...หลังจากนั้นก็ยิงผมทิ้ง จบเรื่องจบราว...”

“แกต้องการอะไร” คนถือปืนคำราม รู้สึกหงุดหงิดกับคำเกริ่นโยกโย้

“ผมก็มีข้อเสนอให้เรื่องของเราจบแบบพวกคุณเป็นฝ่ายแฮปปี้เอนดิ้ง แล้วไม่น่าเบื่อแบบนั้น” ยามาโมโตะเตะปืนสั้นของตัวเองออกไปห่างๆแล้วเดินเข้าไปใกล้คู่สนทนา ลอบสังเกตปฏิกิริยาที่ผ่อนผันมากขึ้นเมื่อมันเห็นว่าเขาตัวเปล่าจริงๆ

“แล้วผมก็มั่นใจมากด้วย ว่าพวกคุณได้ผลประโยชน์กับมันเต็มๆ หรือจะอยากให้มันจบแบบเดิมผมก็ไม่ซีเรียส...เพียงแต่กลับไปคุณอาจจะโดนบอสด่าว่าหน้าโง่เป็นสถานเบา และสถานหนักก็คือโดนสำเร็จโทษตายเพราะดันฆ่าคนที่ไม่สมควรฆ่า”

“มีอะไรก็รีบว่ามา!” ยามาโมโตะเลิกคิ้วนิดๆ ความจริงเขาเกือบผิวปากด้วยซ้ำกับคำตอบรับที่ดังขึ้นทันทีหลังจากเขาพูดจบ รู้สึกชักอยากเห็นหน้าบอสเบื้องบนของเจ้าพวกนี้หน่อยๆว่าเป็นคนยังไงถึงทำให้ลูกน้องกลัวตายได้ขนาดนี้

“ห้องที่เพื่อนคุณบุกเข้าไปเมื่อกี้เป็นห้องเก็บข้อมูลสำรองของเครือยามาโมโตะ แต่มันก็ตอบโจทย์พวกคุณที่ดั้นด้นไปถึงญี่ปุ่น” เด็กหนุ่มเอ่ยเสียงเรียบ ตามที่คิดไว้ คนฟังกระชับปืนแน่นขึ้นจนสั่นระริกและดูราวจะใช้มันชี้หน้าเขาแทนนิ้ว

“แกโกหก! ไม่มีทาง!! ท่านแมคคาร์ทีไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้!

“นั่นก็เพราะท่านแมคคาร์ทีของพวกคุณไม่รู้ต่างหาก...อันที่จริงต้องบอกว่าไม่มีใครรู้นอกจากผม” เขาจงใจเน้นย้ำคำว่า ไม่มีใครให้ชัดเป็นพิเศษ

นักฆ่าหรี่ตาลงแสดงท่าทางระแวง เจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์คือไม่เชื่อ

“นั่นหมายความว่าโกคุเดระ ฮายาโตะก็ไม่รู้?

“ผมพูดว่าไม่มีใครก็คือไม่มีใคร” เสียงของเด็กหนุ่มกดต่ำ ชั่ววินาทีหนึ่งที่ดวงตาคมสีน้ำตาลเปลือกไม้ทอแววบางอย่างอ่านไม่ออกเมื่ออีกฝ่ายเอ่ยชื่อใครบางคนขึ้นมา มือทั้งสองข้างล้วงกระเป๋า ยืดตัวตรงแล้วว่าขึ้นเรียบๆแต่แฝงไปด้วยความเย็นชาร้ายกาจ

“ถึงผมจะใจกว้างพอที่จะบอกความลับบริษัทของตัวเองให้คุณรู้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะทนไหวเมื่อได้ยินชื่อของคนที่ทรยศ....วงการของคุณก็น่าจะรู้ดีนี่ว่ามันควรจะรู้สึกยังไง....ใช่ไหม?"

“ถ้าอย่างนั้นก็หมายความว่าแกจะพาฉันไปเอาข้อมูล?” ชายสูทดำถามขึ้นใหม่ ยามาโมโตะพยักหน้ารับ

“ใช่ แล้วคุณได้เลื่อนยศแน่ บางทีอาจจะได้กลายเป็นคนขึ้นหิ้ง เป็นนักฆ่าเอาไว้เก็บพวกคนใหญ่คนโตระดับประธานาธิบดี ไม่ใช่นักธุรกิจเด็กๆที่กำลังจนตรอกอย่างผม...” เด็กหนุ่มเข้าประชิดตัว ดวงตาคู่คมทรงอิทธิพลจ้องนิ่งกับคนตรงหน้าที่กำลังสับสนกับความคิดสะระตะในหัวว่าจะเอายังไงกับเขาดี แต่เขาไม่เปิดโอกาสให้ใครได้ทำใจ เริ่มเดินช้าๆรอบตัวอีกฝ่าย

“คุณชื่ออะไร” เด็กหนุ่มเริ่มตั้งคำถาม ดวงตาดุดันของคนถูกถามชื่อตวัดมองพลัน ทำให้เขาต้องหัวเราะออกมาเบาๆ “ขอโทษด้วยครับ...มันเป็นมารยาทเวลาจะทำข้อตกลงกันทางธุรกิจ แต่ผมเข้าใจดีว่าอย่างคุณคงไม่สามารถบอกได้...โอเค...ไม่เป็นไร ขอชื่อปลอม โค้ดเนม...หรืออะไรก็ได้ตามที่คุณอยากให้ผมเรียก”

ชายฉกรรจ์นิ่งไปชั่วครู่ แต่เมื่อไม่เห็นถึงความเสียหายร้ายแรง เขาจึงตอบส่งๆไป

“อัลเฟร็ด”

“โอเค...อัลเฟร็ด” เด็กหนุ่มยิ้มมุมปาก แล้วเริ่มกระซิบในขณะที่เดินรอบตัวคู่เจรจาไปเรื่อยๆ

“ผมจะบอกให้คุณรู้คนเดียว...ใช่...แค่คนเดียวเท่านั้น คุณจะทำงานได้อย่างที่บอสของคุณปรารถนา ข้อมูลของเครือยามาโมโตะทั้งหมดที่อยากได้...พอได้แล้วก็แค่นั่งเครื่องกลับไป กินเวลาน้อยกว่าพวกที่ไปญี่ปุ่นอยู่แล้ว แล้วพวกนั้นกำลังเสี่ยงกับลูกน้องของผมนับร้อย แต่คุณไม่ต้องสู้กับใครเลย...แค่สู้กับตัวเองแล้วรับปากกับผม....เราแลกกัน ผมจะไม่ถอนระบบรักษาความปลอดภัย”

คนฟังนิ่งเงียบ แต่สีหน้าฟ้องว่าคิดหนัก ยามาโมโตะยังไม่พอแค่นั้น เขาต้อนไปเรื่อยๆ

“อันที่จริงผมช่วยคุณเต็มๆเลยนะ ถึงเจ้าพวกนั้นจะไม่ถูกจับ แต่ก็ต้องทิ้งลายนิ้วมือไว้อยู่ดี คราวนี้ต่อให้พวกเขาเป็นบุคลากรที่สำคัญแค่ไหน บอสของคุณก็คงไม่ปล่อยให้พวกเขามีชีวิตรอด ทฤษฎีง่ายๆเมื่อจุดสีดำเผยตัวบนพื้นหลังสีขาว มันไม่มีทางกลับเข้าสู่ความมืดได้ใหม่...ไม่ดีหรอกเหรอ ถ้าพวกนั้นหายไป โอกาสที่คุณจะได้กลายเป็นคนขึ้นหิ้งบ้างก็ขยับเข้าไปใกล้อีกก้าว...เห็นด้วยหรือเปล่า...”

เสียงเงียบเป็นคำตอบ เด็กหนุ่มหัวเราะหึ

“ไม่เป็นไรครับ...ไม่ต้องตอบ มันพูดยากผมเข้าใจ แต่ถ้าคุณเห็นด้วยกับผม กรุณาเอาปืนลง”

มือของนักฆ่าสั่นระริกอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แต่กระนั้นก็ยอมลดปืนลงช้าๆจนมันชี้ลงพื้น ประธานสูงสุดแห่ง The Best ลอบยิ้มเยาะ แต่เขาก็ไม่ได้นึกรังเกียจนิสัยเหยียบหลังพวกเดียวกันแบบนี้หรอก มันเป็นเรื่องธรรมดาสามัญ จะโลกมืดหรือโลกสว่าง แต่เรื่องความต้องการพื้นฐานของมนุษย์ก็มีเหมือนๆกัน ยิ่งเรื่องเห็นแก่ได้ ในวงการแบบนี้มันเข้มข้นกว่าที่อื่นอยู่แล้ว

แต่หากไม่ทันได้ก้าวขา...


ปังๆ!

เสียงปืนดังขึ้นสองนัด และหลังจากนั่นเสื้อเชิ้ตสีขาวข้างในของนักฆ่าก็ชุ่มเลือดสีแดงเป็นวงกว้าง ดวงตาของผู้ถูกยิงเบิกโพลงพร้อมๆกับดวงตาของเด็กหนุ่มที่แข็งค้าง มองร่างของนักฆ่าที่ค่อยๆร่วงลงกับพื้น เลือดข้นๆซึมเปื้อนเต็มแผ่นหลังที่เป็นด่านหน้ารับกระสุน ยามนี้ยามาโมโตะกำลังเผชิญหน้ากับบุคคลผู้ลั่นไกสังหารที่กำลังยืดแขนตรง ในมือมีปืนลูกโม่ เด็กหนุ่มกำมือแน่น ถามตัวเองในหัวซ้ำๆว่านี่มันคือเรื่องจริง ไม่ใช่เรื่องโกหก ทำไมคนๆนี้ถึงมาอยู่ที่นี่ ทั้งๆที่เรื่องของหมอนี่มันจบไปแล้ว!

เขาประมาทไป ประมาทไปมาก!

“เคลล์แมน มาร์ตัน!” คำรามอย่างที่ไม่เคยทำ แต่คนสูงวัยกลับยิ้ม เป็นยิ้มที่คนจิตปกติไม่สามารถทำได้

“เปลี่ยนตัวได้ไหม...ท่านประธานยามาโมโตะ ไหนๆ หมอนั่นก็ฟังข้อมูลของคุณไม่ได้แล้ว” แคลล์แมนพยักเพยิดมาทางนักฆ่าไร้ลมหายใจบนพื้น แล้วก้าวขาเดินมาหาเขาเรื่อยๆ เสียงหัวเราะแผ่วๆ น้ำเสียงลากเรื่อยช้าๆกับแววตาที่อัดแน่นไปด้วยความรู้สึกผิดหวังคั่งแค้นปะปนกันทำให้เด็กหนุ่มรู้....


พ่อค้าไวน์จากฮังการีคนนี้ไม่อยู่ในสถานะที่จะเจรจาได้แล้ว


เพราะนี่...คือการทวงคืนจากผู้ที่เสียหายที่สุดของเรื่อง


เคลล์แมน มาร์ตันคือผู้ผิดหวังอย่างรุนแรง รู้สึกว่าทุกรอบตัวล้มและพังอย่างไม่เป็นท่า หัวใจแหลกสลายจนไม่อาจประกอบขึ้นใหม่ ความรู้สึกถูกปลุกจากฝันหวานแล้วมายอมรับกับความจริงที่โหดร้ายมันคงไม่ต่างกับกระโดดจากหน้าผาแล้วดำดิ่งสู่เหวลึกเบื้องล่าง เสียงาน เสียหน้า เสียโอกาส เสียทรัพย์สิน เรื่องขมขื่นที่ไม่น่าให้อภัยกับผู้ทำ ยิ่งเป็นคนอ่อนไหวและถูกปั่นหัวง่ายด้วยแล้ว คนพวกนี้ไม่ต่างอะไรกับแก้วบางๆ

คิดว่าสิ่งเดียวที่จะปกป้องตัวเองจากความอ่อนแอนี้ได้คือการลากให้ผู้อื่นลงนรกไปด้วยกัน และจะทำอย่างไม่มีการลังเล การลั่นไกปืนสองนัดติดฆ่าคนแล้วสีหน้ายังไม่เปลี่ยนก็พิสูจน์ได้แล้ว

เด็กหนุ่มร่างสูงเลียริมฝีปากที่แห้งผาก เขาอาจแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้หากสู้กับคนปกติ...แต่กับคนบ้า เขาไม่รู้จะรับมือแบบไหน!

“คุณจะเอาข้อมูลบริษัทผมไปให้แมคคาร์ที เพื่อแลกให้ตาแก่นั่นหันกลับมาร่วมมือกับคุณอีกครั้ง...ไม่มีประโยชน์หรอกคุณมาร์ตัน ตอนนี้โกคุเดระ ฮายาโตะคือผู้ที่ถือหุ้นส่วนของเบธิลด์โดยสมบูรณ์ อย่าดิ้นรนด้วยวิธีที่สิ้นคิดเลย มันไม่เป็นผลดีกับตัวคุณหรอก” เด็กหนุ่มเตือนเสียงต่ำ แต่ชายสูงวัยกลับยิ้มเหยียด

“แต่ผมว่าผมไม่ต้องดิ้นรนอะไรมากมาย ในเมื่อสัญญาที่ว่านั่นมันไม่ได้เซ็นด้วยชื่อของท่านประธานโกคุเดระ...แต่เป็นชื่อของคุณเองไม่ใช่เหรอ”

ว่าไงนะ!

เพียงเท่านั้นร่างทั้งร่างของเด็กหนุ่มชาวาบ ความช็อกออกฤทธิ์ถึงลมหายใจ แล้วยิ่งรู้สึกว่าโลกนี้มันโคลงมากขึ้นเมื่อชายสูงวัยยื่นหน้าจอสมาร์ทโฟนมาตรงหน้า และภาพที่เล่นอยู่ไม่ใช่ใคร เป็นเขากับแดชที่กำลังทำสัญญากันที่ทางหนีไฟ เขาไม่รู้ว่าเคลล์แมนไปได้มาได้ยังไง ถ่ายเอง หรือใครถ่ายให้ แต่มันจะเป็นกรณีไหน เรื่องที่เขากลัวที่สุดก็มาถึงแล้ว

แผนแตก...

“ไม่ต้องกลัวไป คุณยามาโมโตะ” แววตาของพ่อค้าไวน์พราวระยับทว่าเลื่อนลอยด้วยสติที่พร่องไปเยอะ เสียงหัวเราะในลำคอดังน่ารังเกียจ “คลิปนี้ผมถ่ายเอง ไม่มีใครรู้แม้แต่แมคคาร์ที แล้วมันจะไม่ใครรู้ไปอย่างนี้จนเรื่องจบ ถ้าคุณทำตามเงื่อนไขของผม...เอาข้อมูลมาซะคุณยามาโมโตะ อย่าให้ผมต้องฆ่าใครอีก”

ดวงตาคมหรี่ลง ตอนนี้เขามือเปล่า ปืนของตัวเองเขาก็เตะซะไปไกลลิบ ตรงหน้ามีศพให้เห็นเป็นตัวอย่าง แถมด้วยฆาตกรสติไม่สมประกอบที่ถือปืนบรรจุกระสุนเหลือพอจะส่งเขาลงหลุมได้สบาย ความรู้สึกที่มันผุดชัดเมื่อสิบนาทีก่อนหน้านี้กลับมาตะโกนก้องในอกอีกครั้ง เขาต้องเอาตัวรอด ถึงเวลาต้องยอมรับความจริง เขาพลาด พลาดเต็มๆ มันควรทำใจเอาไว้ก่อนตั้งแต่แรกว่าไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบร้อยเปอร์เซ็นต์ ทุกอย่างผิดพลาดได้

เพียงแต่มันไม่ควรพลาด

ความโกรธเริ่มประเดประดังพอๆกับความกดดัน เขาโกรธตัวเองที่เลินเล่อไม่ดูรอบข้างจนทำให้โดนจับได้ นี่ถ้าโกคุเดระอยู่ข้างๆ หมอนั่นต้องด่าเขาแน่ๆ แต่เขายอม...ขอแค่เขาจบเรื่องทุกอย่าง ขอแค่คลิปนี้ไม่ไปถึงสตีเฟน แมคคาร์ที ขอแค่พวกนั้นไม่รู้ว่าโกคุเดระวางแผนตลบหลัง ขอแค่พวกมันไม่ทำอะไรโกคุเดระ ใช่...ขอแค่นั้น


ขอแค่นายปลอดภัย...


ฉันทำได้ทุกอย่าง


แววตาของเด็กหนุ่มสงบลง เขาพยักหน้าซ้ำๆเป็นการย้ำเมื่อจัดการกับอารมณ์ของตัวเองได้

“มีหลักฐานอะไรไหมว่าคุณยังไม่ได้ส่งคลิปนี้ให้แมคคาร์ที” ประธานแห่ง The Bestถาม เคลล์แมนยื่นโทรศัพท์ให้

“พอผมรู้เรื่องผมก็รีบสะกดรอยตามคุณ ตลอดเวลาบนเครื่องบินเราไม่สามารถติดต่อใครได้ อีกอย่างผมไม่ได้ตามคุณคนเดียว แต่ผมต้องตามนักฆ่าสองคนที่มันจะมาเก็บคุณด้วย การระวังไม่ไห้คนสามคนเห็นตัวทั้งๆที่อยู่ใกล้แทบจะหายใจรดขนาดนี้มันยากสำหรับผมมากนะคุณยามาโมโตะ แล้วแบบนี้ผมจะเอาเวลาที่ไหนไปส่งคลิปให้ใคร....หรือถ้าคุณไม่เชื่อ จะลองเช็คประวัติก็ได้ ต่อให้ผมลบไป...แต่ระดับนักศึกษาดีเด่นของที่นี่ก็ต้องกู้ได้อยู่แล้ว....เอาสิ”

ยามาโมโตะจ้องที่สมาร์ทโฟนเบื้องหน้าอยู่สักพักสลับกับใบหน้าของเจ้าของ ไม่มีรอยกังวลแม้แต่น้อยแม้เขาจะเอื้อมมือไปหยิบมาดูจริงๆ

“ไม่ล่ะ...” เขาพูดออกมาในที่สุด  “ผมเชื่อ เดินตามผมมา คุณมาร์ตัน”

เด็กหนุ่มออกเดิน ในขณะที่ชายชาวฮังการีขนาบข้าง รู้สึกถึงโลหะที่รุนแถวๆเอว เป็นปากกระบอกปืนไม่ผิด เขาหมดทางหนีโดยสิ้นเชิง  ถึงจะเป็นมือใหม่แต่ก็ต้องบอกว่า สติที่ไม่อยู่กับเนื้อกับตัวทำให้เคลล์แมนกลายเป็นผู้ร้ายมีหัวคิดทันที ยามาโมโตะกลืนน้ำลายอึกใหญ่พลางคิดไปด้วยว่าเขาจะถ่วงเวลาได้นานเท่าไหร่ เมื่อห้านาทีโดยประมาณเมื่อกี้มีปืนดังขึ้นสองนัด ก่อนหน้านี้ที่เขายิงขานักฆ่าอีกหนึ่งนัด แต่ห้องข้อมูลเป็นห้องเก็บเสียง เป็นไปได้ที่พวกรปภ.จะไม่ได้ยิน แต่เมื่อกี้มันดังลั่นทั้งตึก เขายังได้ยินนักศึกษาชั้นล่างส่งเสียงกรีดร้อง รู้แน่นอนว่ากำลังเกิดเหตุร้าย แต่ด้วยสัญชาตญาณ ไม่มีรปภ.หน้าไหนอยากเอากระบองมาสู้กับปืน พวกเขาคงจะแจ้งตำรวจ

แต่ก็ไม่รู้ว่าจะมาถึงเมื่อไหร่...

ประธานสูงสุดแห่ง The Best กำหมัดแน่นกับสถานการณ์บีบคั้นแล้วเปรยขึ้นในขณะที่ยังเดินไปเรื่อยๆ

“คุณไม่น่าทำแบบนี้”  เสียงตอบรับคือลมหายใจฮึดฮัดราวสัตว์ร้าย ชายสูงวัยกัดฟันพูดตอบออกมาอย่างคั่งแค้น

“ประโยคนั้นช่วยเก็บไว้พูดกับตัวเองดีกว่านะ คุณยามาโมโตะ คุณต่างหากที่ไม่ควรจะทำแบบนี้กับผมตั้งแต่แรก”

“นั่นสินะ” เขารับสั้นๆด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ห้องนี้แหล่ะครับ”

ทั้งสองคนกลับมาที่ห้องๆเดิมอีกครั้ง สภาพห้องกระจัดกระจายเพราะคิวบู๊ย่อมๆระหว่างเขากับนักฆ่าที่ตอนนี้ยังนอนสลบเหมือนไม่รู้ตื่นอยู่บนพื้น เขาหยุดอยู่กลางห้อง แล้วพยักเพยิดไปทางตู้หนังสือที่วางเต็มแนวยาวข้างในสุดของห้อง แล้วว่าขึ้นเรียบๆ

“ชั้นสองเริ่มจากซ้ายมือ สามแฟ้มแรก ข้อมูลของผู้ประกอบการอื่นที่ขายฝากกับ The Best Imperial ทั้งที่อยู่ในปัจจุบันและที่ถูกถอดเพราะยอดขายตก ห้าแฟ้มต่อมาคือสินค้าแบรนด์ The Best ข้อมูลวัสดุ สถานที่ กระบวนการผลิต ต้นทุน ราคาขาย และกำไรที่คาดเดาไว้ตลอดปีถูกระบุเอาไว้ทั้งหมด”

เคลล์แมนทำตาวาว หัวเราะร่วนออกมาราวสาแก่ใจอย่างถึงที่สุด ค่อยๆก้าวเท้าไปยืนอยู่หน้าตู้ เขาราวกับเห็นโลกทั้งใบมากองอยู่ตรงหน้า สิ่งที่นักธุรกิจทั้งโลกอยากรู้แต่ไม่มีใครอาจเอื้อมเวลานี้กลับเปิดเผยต่อหน้าเขาอย่างง่ายดาย

“แล้วชั้นล่างนี่ล่ะ...”

“คลัง The Best Amari ข้อมูลการสร้างการบริการชั้นเยี่ยมของโรงแรมระดับเวิล์ดคลาสและการจัดทัวร์ แน่นอนว่าข้อมูลสมัยที่ผมร่วมธุรกิจกับโกคุเดระแอร์ไลน์ก็อยู่ด้วย” เขาบอกไปตามความจริงและสังเกตปฏิกิริยาของชายแก่เบื้องหน้าที่มีความสุขจนเปรม ยามาโมโตะเดินเข้าไปใกล้ชายสูงวัยแล้วตัดสินใจเอ่ยอนุญาต

“เชิญเปิดเลยครับ”

เคลล์แมนค่อยๆยกมือที่สั่นระริกขึ้น แต่ไม่ทันที่มือของเขาจะยกขึ้นแตะแม้ประตูตู้

กริ๊ก!

สัมผัสแข็งๆที่หลังศีรษะดึงคนที่กำลังจะได้ฝันหวานลงสู่ก้นเหวอีกครั้ง พ่อค้าไวน์ชะงักมือค้าง ดวงตาเบิกกว้าง ตัวแข็งทื่อ ไม่อาจขยับได้แม้กระทั่งกะพริบตาหรือสูดลมหายใจ ทำได้เพียงยืนนิ่งและถูกจ่อด้วยปืนอย่างเงียบๆจากข้างหลังเพียงเท่านั้น

“คุณ...ไม่มีปืน” ชายสูงวัยพยายามย้ำความคิดของตัวเองอีกครั้ง เบเร็ตต้า 9000s ของเด็กหนุ่มยังนอนอยู่ข้างนอก เด็กหนุ่มทิ้งและเตะมันออกไปเอง เขาเห็นกับตา

แต่ตอนนี้...มันจ่ออยู่ที่ศีรษะส่วนหลัง ซ้ำคนถือยังกดมันลงไปอีกเล็กน้อยเพื่อให้ซึมซาบสัมผัสว่าเขาไม่ได้ฝันไป...

นี่มันพลิกกระดาน...

“ใช่...คุณไม่ได้ผิดอะไร ปืนของผมยังอยู่ที่เดิม ที่ๆผมเตะมันไป คุณคงรอให้ผมทำอย่างนั้นก่อนที่จะยิงนักฆ่าต่อหน้าต่อตาผมเพื่อเป็นการขู่ แล้วบังคับให้ผมทำตามเงื่อนไขของคุณด้วยไพ่ที่เหนือกว่าอยู่สองใบ...นั่นก็คือคลิปกับปืน แต่เสียใจด้วยที่ไพ่ทั้งสองใบของคุณมันทำอะไรผมไม่ได้”

เด็กหนุ่มพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย ความเยือกเย็นร้ายกาจที่ได้ยินมานักต่อนักว่ามักจะปรากฏบนโต๊ะสัมมนาธุรกิจ แต่ตอนนี้กลับแผ่ช้าๆอยู่ทั่วแผ่นหลังของเขา ทำไม....ทำไมเขาถึงคิดว่าตัวเองชนะ เพราะคิดว่าขู่ยามาโมโตะ ทาเคชิได้สมบูรณ์แบบแล้วงั้นเหรอ เพราะอย่างนั้นใช่ไหม มันถึงทำให้เขาจนมุม...มันเป็นเพราะชั่ววินาทีที่คิดว่าตัวเองได้โบยบิน แล้วมองลงมาเห็นท้องฟ้า...เพียงแค่ความคิดที่คิดว่าตัวเองได้ล่วงรู้ สิ่งที่ดีที่สุดในโลก

โดยที่ลืมคิดไป...ว่าคนปกปักษ์สิ่งเหล่านั้นคือใคร...

“ทำไม...” ทำไมถึงเป็นแบบนี้....

“ปืนนี้เป็นของนักฆ่าคนนั้น” เคลล์แมนเหลือบตามองไปด้านหลังเพียงนิด เห็นชายสูทดำนอนสลบอยู่ แล้วยามาโมโตะได้เก็บมันไปหลังจากที่จัดการเสร็จ พกปืนไว้สองกระบอกติดตัว จงใจทิ้งไปหนึ่งกระบอกเพื่อสร้างความตายใจ

“ตอนแรกไม่ได้คิดจะเอาไว้จัดการกับคุณ แต่เผื่อว่าผมต่อรองกับนักฆ่าคนที่สองไม่สำเร็จ เลยเก็บเอาไว้เผื่อฉุกเฉิน...ต้องบอกว่าผมตกใจจริงๆที่คุณรู้แผนการของพวกผมได้ ผมไม่ได้เตรียมอะไรไว้รับมือกับคุณเลย แต่สถานการณ์ก็เป็นอย่างที่เห็น...นี่มันพลิกกระดาน...”

“ฉัน....”

“อ้อ...อยากจะถามใช่ไหมว่าคุณพลาดตรงไหน” แม้เคลล์แมนจะยืนหันหลังให้ แต่เงาที่สะท้อนบนกระจกตู้ก็เห็นได้เลือนราง เด็กหนุ่มที่กำลังใช้ปืนจ่อเขาอยู่ยิ้มออกมาอย่างเยือกเย็น

“ผมจะบอกให้ก็ได้...”

โครม!

“อั่ก!” เคลล์แมนร้องออกมาเพราะอาการจุกอย่างสาหัสเมื่อเด็กหนุ่มกวาดขาเตะเข้าที่หน้าแข้งและสะบัดอย่างแรงจนเขาล้มลง จากนั้นมือกับเข่าก็กดตรึงให้ชายสูงวัยติดอยู่กับพื้น  แต่ยังไม่ทันที่จะได้พูดหรือร้องอะไรไปมากกว่านั้น เสียงกริ๊กเบาๆก็ดังขึ้นอีกรอบ คราวนี้ใกล้กว่าเดิม มันเหนือหูขึ้นไปนิดเดียว


ตรงขมับ...


“เวลาจะทำเรื่องไม่ดีอย่าเอาอารมณ์ขาดๆเกินๆแบบนั้นมาครอบงำ...ผมไม่ได้ใจดีที่จะไม่ถือสาคนบ้า ไม่ว่าใครก็ตามที่คิดจะแตะต้อง The Best ผมจะไม่ปล่อยไว้แม้แต่คนเดียว”

“ทำไม...” เสียงหอบหายใจปนมากับคำถาม มันคงเป็นอาการขาดอากาศเพราะต้องอยู่กับพื้นและถูกกดทับ แต่ที่สำคัญที่สุดคือความผิดหวัง การพ่ายแพ้ครั้งแล้วครั้งเล่ากำลังเกาะกินหัวใจอย่างสาหัส

“ทำไมถึงต้องเป็นแบบนี้! ฉันผิดอะไร! ทำไมฉันต้องมาเจอกับอะไรอย่างนี้ด้วย!! นี่เป็นโอกาสที่ครั้งหนึ่งในชีวิตที่ฉันจะคว้ามา แต่พวกแกก็มาทำลายมันลงอย่างหน้าด้านๆ! ทั้งไอ้แมคคาร์ทีสารเลว! แล้วก็พวกแก! ไอ้พวกเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม!! ฉัน...ฉัน..ต้องพยายามขนาดไหนแกรู้บ้างไหม มะ..มันไม่ง่าย ฉันต้องอดตาหลับขับตานอนกี่วันกว่าจะจัดการโครงการนี้เสร็จ...ไม่ได้โยนงานให้พวกไวน์เมคเกอร์ทำกันอยู่ฝ่ายเดียวนะเว้ย! ฉันเป็นคนคิดสูตร! ฉันเป็นคนคัดเลือกสายพันธุ์ที่จะทำมันออกมาให้ดีที่สุด! แม้การวางตลาด กลยุทธ์ชักจูงลูกค้า ฉันก็เป็นคนทำ...ทุกสิ่งทุกอย่างฉันสร้างมากับมือ แต่พวกแก...พวกแก...!!

ยามาโมโตะนิ่งฟังเสียงก่นด่าที่ระบายมันออกมาจากหมดเปลือกจนกระทั่งมันเงียบไปราวไม่รู้จะหาคำไหนมาอธิบายความรู้สึกแย่ขนาดนี้ได้อีก ร่างสูงใหญ่ของคนยุโรปที่เขาใช้เข่าและมือกดทับสั่นเพราะความโกรธ แต่เด็กหนุ่มกลับไม่แก้ตัวหรือโต้กลับแม้แต่คำเดียว เพราะเขาก็ได้ทราบสถานะของคนตรงหน้าดีอยู่แล้วว่าคือผู้เสียหาย

นี่เป็นเรื่องที่ผู้เสียหายสามารถเรียกร้องได้...

แต่มันก็มีบางเรื่องที่ไม่อาจอนุญาตให้เรียกร้องได้ เขาถึงไม่ปล่อยตัวชายตรงหน้าให้เป็นอิสระ

“คุณเหนื่อย...และมาไกลมากจริงๆ คุณมาร์ตัน” เด็กหนุ่มเอ่ยรับ “มันไกลจนผมไม่คิดว่าคุณจะกลับไปไหนได้อีกแล้วทั้งบนดินและใต้ดิน รู้ใช่ไหมว่าในวงการของเรา...คนที่ไม่มีที่ยืนมันจะจบลงแบบไหน...รับได้ไหมถ้าต่อไปนี้คุณไม่อาจทำการค้ากับใครได้อีกเพราะชื่อกิจการถูกถอนออกจากตลาดหลักทรัพย์...รับได้ไหมถ้าวันหนึ่งขาดแคลนพื้นที่ผลิตสินค้าเพราะค่าที่โดนโก่งราคาค่าที่จนคุณไม่มีปัญญาจ่าย ลูกน้องลาออก ขาดทั้งเงิน แรงงาน ส่งผลถึงคุณภาพสินค้า ยอดขายตก ถูกถอนออกจากห้าง...และสุดท้ายก็หมดอนาคต...”

ใบหน้าของชายสูงวัยซีดเผือด ความเย็นเฉียบลามตามปลายมือปลายเท้าผสานกับหัวใจที่มันเพิ่มอัตราสูบฉีด เขาส่ายหน้าช้าๆ น้ำตาคลอด้วยความหมดอาลัยตายอยาก นั่นไม่ใช่แค่คำขู่เขารู้ดี เพราะมันสามารถเกิดขึ้นได้...ขอเพียงแค่ธุรกิจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งเอเชียเป็นผู้จัดการ...และนั่นคือการฆ่าที่โหดร้ายยิ่งกว่ามือปืนของพวกมาเฟีย


การตายทั้งเป็นในเส้นทางของนักธุรกิจ...


“ไม่...” เสียงเคลล์แมนสั่นเครือ น้ำตาไหลอาบ แต่ยามาโมโตะไม่สนใจ

“ก่อนหน้านี้ผมได้รั้งคุณเอาไว้แล้ว เป็นเชือกเส้นสุดท้าย...แต่คุณก้าวข้ามมันมาเอง...ปลาที่ถูกตกมาครั้งหนึ่งแต่มีโอกาสลงน้ำน่าจะสำนึกและเห็นคุณค่าชีวิตของตัวเองมากกว่านี้อีกสักหน่อย” น้ำเสียงของยามาโมโตะทวีความเย็นชาขึ้นเรื่อยๆ เช่นเดียวกับการออกแรงทิ้งน้ำหนักไปที่มือและหัวเข่าอย่างไม่ปรานี

“แก...จะฆ่าฉัน...?” ดวงตาคมหรี่ลงกับประโยคนั้น ตั้งใจจะถามว่าเขากล้าลั่นไกหรือเปล่าสินะ

“มีอยู่สองอย่างบนโลกใบนี้ที่ผมไม่มีวันให้อภัยคนที่มาทำร้าย...หนึ่งก็คือกิจการ The Best ที่ตระกูลผมสร้างขึ้นมากับมือ และสองก็คือลูกน้องและบุคลากรทั้งหมดที่ผมดูแลอยู่ภายใต้ชื่อของเครือยามาโมโตะ...แต่ไม่มีวันให้อภัยนั่นก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะต้องฆ่า...”

ยามาโมโตะตอบอย่างตรงไปตรงมา และประโยคหลังช่วยชโลมใจหวาดหวั่นของคนถูกปืนจ่อได้ไม่น้อยจนเผลอยิ้ม แต่พลันรอยยิ้มก็เลือนหายไปจากใบหน้าเมื่อฟังประโยคต่อไป

“แต่บนโลกนี้มีคนเพียงคนๆเดียวที่ผมไม่มีวันปล่อยให้ใครเข้าไปแตะต้องแม้แต่จะคิด ถ้ามีผมก็พร้อมที่จะกำจัดทั้งหมดโดยไม่เลือกวิธีการ...แล้วคลิปนั้นของคุณก็ระบุชัดเจนว่ามันจะทำให้เขาเดือดร้อน...”

“ไม่!! อย่านะ! อย่า! ฉันยอมแล้ว!! ยอมลบคลิป ไม่เอาเรื่องอะไรทั้งนั้น! ปล่อยฉัน!! ปล่อยฉันเถอะได้โปรด!!!

ชายสูงวัยตัวสั่นเทิ้ม เขากรีดร้องออกมาอย่างบ้าคลั่งและไม่เป็นภาษา สะอึกสะอื้นแล้วดิ้นพล่านไปมาเพราะความกลัวจัด แว้บหนึ่งที่เคลล์แมนเหลือบเห็นสีหน้าและแววตาของผู้ที่กำลังจะตัดสินชี้เป็นชี้ตายตน มันทั้งนิ่ง ว่างเปล่า ไม่มีความลังเล ไม่มีความเกรงกลัว มันเป็นแววตาที่เขาไม่คิดว่าจะได้เห็นในระยะใกล้ขนาดนี้ เพราะมันเหมือนกับคนพวกนั้นไม่มีผิด....เหล่าคนที่อาศัยและทำงานเช่นเดียวกับพวกเขาแต่อยู่ในความมืด ซ้ำยังเห็นกฎหมายเป็นเพียงแค่แผ่นกระดาษ


คุณไม่น่าทำแบบนี้


พลัน...ประโยคที่เด็กหนุ่มพูดกับเขาก่อนหน้านี้ก็ลอยเข้ามาในหัว มันเป็นการเตือนครั้งสุดท้ายจริงๆ แต่เรียกว่าเตือนไม่ถูกนัก แต่เป็นการประณามหลังการกระทำและตอกย้ำความผิดพลาดครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิตต่างหาก เพราะตอนนี้ในหัวมีแต่เรื่องที่คิดว่าถ้าย้อนเวลากลับไปได้เขาจะขอเลิก เลิกทั้งหมดทุกอย่าง เขาไม่น่ากลับเข้ามายุ่งเรื่องนี้

เขาไม่น่าถ่ายคลิปๆนั้น...

หรือถ้าถ่าย มันก็ควรจะเป็นวิดีโอที่ไม่มีเสียง...

เขาไม่ควรให้มีชื่อของคนๆนั้นอยู่ในคลิปเลย...

ชื่อ...ของโกคุเดระ ฮายาโตะ


ปัง!

ดังขึ้นเพียงหนึ่งนัดพร้อมกับเลือดข้นๆพุ่งทะลักจากปากแผลระยะประชิดกระเด็นไปเปื้อนพื้นแถบนั้น ร่างของเขากระตุกเกร็งและแน่นิ่งไปพร้อมกับลมหายใจที่ดับสนิทในขณะที่คนลั่นไกยังคงมีสีหน้าที่เหมือนเดิมทุกประการ ถ้าหากจะแปลกไปสักหน่อยคงจะเป็นชีพจรที่มันเต้นอย่างระห่ำในวินาทีที่นิ้วล็อกลงไป แต่หลังจากนั้นมันก็กลับเป็นปกติ เขาไม่รังเกียจที่ผลลัพธ์สุดท้ายมันจะลงเอยแบบนี้...เขาได้บอกกับตัวเองไปแล้ว....

ขอแค่นายปลอดภัย...ฉันทำได้ทุกอย่าง

“ท่านยามาโมโตะ...” คนที่เข้ามาในห้องคือบอดีการ์ดของเขาที่คงจะเดินทางมาพร้อมกับตำรวจ และการที่เข้ามาคนเดียวก็นับว่ายังรู้วิธีการทำงานเหมือนเดิม เขาได้บอกไปตั้งแต่ต้นว่าเครือยามาโมโตะมีวิธีการจัดการพวกแมวขโมยแบบไหน และขั้นตอนสุดท้ายคืออะไร

“ต้องการอะไรบ้างครับ”

“ขอสูทนอกตัวใหม่ และไฟลท์ไปปารีสให้เร็วที่สุด” เด็กหนุ่มว่าพลางสำรวจร่างกายของตัวเองไปด้วย โชคดีที่เลือดของเคลล์แมนเปื้อนเพียงแค่เสื้อตัวนอก และถึงแม้มันจะเป็นสีดำแต่กลิ่นคาวๆก็ยังติดกายอยู่ดี เขาจะไปพบโกคุเดระแบบนี้ไม่ได้ ดวงตาสีน้ำตาลเปลือกไม้ย้ายไปที่โทรศัพท์ของเคลล์แมนอีกครั้ง

“คลิปที่อยู่ในโทรศัพท์เครื่องนั้นอย่าให้มันเผยแพร่ออกสู่สาธารณชนได้ จัดการลบถอนรากถอนโคนซะ”
ดวงตาคมประกายด้วยแววเหี้ยมเกรียมเมื่อคิดถึงเหตุการณ์ที่เคลล์แมนพยายามยุให้เขาจับโทรศัพท์เครื่องนั้นด้วยการล่อให้เช็คการส่งคลิป ถ้าเขาเดาไม่ผิด มันคงเป็นแผนสองของพ่อค้าไวน์ที่ต้องการป้ายความผิดให้เขาทั้งหมด

ที่นี่มีปืนทั้งหมดสี่กระบอก สองในสี่เป็นของนักฆ่า กระบอกที่สามเป็นของเขาและมีรอยนิ้วมือของเขาอย่างชัดเจน บาเร็ตต้า 9000s นั้นเขาได้ขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่ปืนลูกโม่ของเคลล์แมนนี่สิ มองมุมไหนก็ต้องลงความเห็นว่าเถื่อนร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่มีทางที่พ่อค้าใสซื่อมือสะอาดที่อยู่ดีๆก็คิดอยากฆ่าคนไปซื้อปืนตามกฎหมายมาใช้หรอก และถ้าเอาเก็บไว้กับตัวต่อไปก็คงจะกลัวว่าจะทำให้ตัวเองเดือดร้อนขึ้นมา น่าจะจงใจวางทิ้งไว้ที่นี่หลังจากที่จัดการเขาเสร็จ และลอกลายนิ้วมือจากโทรศัพท์มาติดบนด้ามปืนแทน

ถ้าเป็นอย่างนั้นข้อหาของยามาโมโตะ ทาเคชิ นอกจากจะฆ่าคนแล้วคงได้โดนพกพาอาวุธเถื่อนอีกหนึ่งกระทง คราวนี้ต่อให้เป็น The Best เขาก็ต้องยอมรับว่าเก็บเรื่องได้ลำบากแน่

“ฝากจัดการเคลียร์พื้นที่ต่อด้วย ถ้ามีปัญหาอะไรโทรเข้ามือถือส่วนตัวของเลขาฉันที่ญี่ปุ่น ต่อให้ยุ่งแค่ไหน แต่เป็นกรณีนี้หมอนั่นรับสายนายแน่”

บอดีการ์ดโค้งรับ แล้วรายงานเพิ่มเติมว่า “ชุดสูทจัดไว้ให้ห้องเปลี่ยนเสื้อด้านล่างแล้วครับ รถจอดอยู่ข้างหลัง ส่วนเที่ยวบินไปปารีส ทางสนามบินบอกให้ท่านยามาโมโตะเดินทางไปได้เลย มีผู้ติดต่อเครื่องส่วนตัวและนักบินคนพิเศษเอาไว้แล้วครับ”

นักบินคนพิเศษ?

เด็กหนุ่มชะงักไปนิดแต่ไม่มีเวลาเหลือให้ถามแล้ว ร่างสูงรีบลงมาข้างล่างโดยใช้บันได  โซนข้างหน้าตึกมันโกลาหลกว่าที่เขาคิดไว้ ตำรวจได้ขึ้นสายกั้นไม่ให้ใครเข้ามาในที่เกิดเหตุ ส่วนข้างหน้าก็มีสื่อมวลชนรอทำข่าวอยู่เต็มไปหมด เขารีบเดินเข้าไปในห้องน้ำเปลี่ยนชุดสูท ก้าวเท้าขึ้นรถออกไปทันที

และเสียงโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น ชื่อที่โชว์หน้าจอทำให้เด็กหนุ่มขมวดคิ้วแน่น


แดช



สัญชาตญาณเตือนภัยที่สงบนิ่งไปแล้ว...เริ่มร้องขึ้นอีกครั้ง


.


.


.


.


.


TBC...


มิยะขอเม้าท์

ออกมาจนได้กับตอนที่สิบสอง แบบว่าถ้ามันมึนๆ หรืออะไรไปสักหน่อยอย่าถือสา เพราะมันก็มึนเหมือนกับคนเขียนเนี่ยแหล่ะค่ะ ง๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ช่วงนี้บอลโลกกำลังฟีเวอร์ แล้วอัซซูรีของไอ้มิยะก็ดันฟอร์มดีด้วยสิ มันเลยได้ลุ้นกันแบบนี้เนี่ยแหล่ะ แต่ถึงจะเชียร์บอลแค่ไหน ก็ยังมาเข็นตอนนี้ออกมาจนได้แหล่ะน่า // ขอบคุณฟีฟ่าที่ให้โอกาสหนูอย่างนี้ แมตช์ไม่ถี่เกินไป TTvTTb

ขะ...ขอพื้นที่สักเล็กน้อยชาบูยอดจอมทัพของไอ้มิยะหน่อยได้ไหม...


อันเดรีย “อะไรก็กรู” ปิร์โล!! 

สุดยอดกองกลางของอิตาลีค่ะ คือไอ้มิยะเชียร์อิตาลีก็เพราะลุงเนี่ยแหล่ะ คนอะไร! แม่มอย่างกับพ่อมด ฉลาดเล่นมากกกกกกก สร้างสรรค์โคตรๆอ้ะ นิ่ง เฉียบ เท่ สีหน้าอารมณ์โป๊กเกอร์เฟซสุดๆ ง๊ากกก ผู้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะบนลูกหนัง โฮกกกกกกกกกกกกกกก ปิร์โลเป็นผู้เล่นที่ได้รับการขนานนามว่าเทพในด้านการเปิดบอล จ่ายบอลที่แม่นยำไร้เทียมทาน แถมฟรีคิกของลุงยังสวยและเด็ดสุดๆอีก คือลุงเป็นทุกอย่างของทีมอ่ะค่ะ ฉายาอะไรก็กรูนั่นได้มาเพราะ เตะมุม ฟรีคิก จุดโทษ ลุงทำทุกอย่าง หนูยกเหล้าสิบจอกบูชาเลย

แบบว่าที่มาอวยลุงไม่ใช่อะไร คือใครยังไม่มีทีมในดวงใจ มาเชียร์อัซซูรีกับเค้าเถอะ! ฮ่าๆๆๆ

แล้วที่ผ่านมาเมื่อวันจันทร์ ขอขอบคุณทุกคำอวยพรวันเกิดนะคะ ขอบคุณฟิคจากพี่สาวคนเก่งโกดังข้างๆด้วย ถูกใจมากๆจริงๆค่ะ ขอบคุณนะก๊า! >/|\<

ฟิคฟ้าถล่มภาคเจรจา กำลังจะเข้าสู่เส้นชัยแล้วจริงๆค่ะ แม้เรื่องจะเกิดขึ้นตั้งแต่ต้นยันจบ และอีกหลายๆอย่างยังไม่ถูกเฉลย ฮี่! >w<

เอาไว้เจอกันตอนหน้าเร็วๆนี้

ขอบคุณทุกท่านที่มาเยี่ยมเยียนบล็อกค่ะ



Miya



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น